ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าได้มาไทเปช่วงกพ.-มีนา ติดกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ล่าสุดไต้หวันเค้าอนุญาตให้คนไทยเข้าได้ไม่ต้องขอวีซ่ายิ่งดีเลิศเข้าไปใหญ่เนาะ
ไทเปหนที่ 3 เราตัดสินใจพักที่ Beitou บ้างสักคืน หลังจากแค่เฉียดๆ ผ่านตอนเดินเขา Yanmingshan รอบก่อน ปี 2015 ปลากรอบกับคราวนี้อยากหาที่ดีๆ แช่น้ำแร่โดยไม่ต้องดั้นด้นไปถึงญี่ปุ่น ส่วนอีกคืนก็ตะลุยเข้าไปพักในตัวเมืองไทเปนั่นแหละ ยัยเมียเคลื่อนที่อย่างฉันไม่ยอมขาดการช้อปปิ้งเด็ดๆ
จากสนามบินไป Beitou
รอบนี้ทำตัวขี้เกียจ นั่งแท็กซี่ตรงดิ่งจากสนามบินไปเบ่โถเลย สำหรับคนที่จะนั่งรถบัสเข้าเมืองไทเปก่อน แล้วต่อรถไฟไป Xinbeitou อีกที คลิกอ่านรายละเอียดที่นี่
ส่วนซิมมือถือไต้หวัน ยังแนะนำให้มาซื้อที่สนามบินเหมือนเดิม เพราะแพ็คเกจเขาถูกมาก unlimited 3/5 วัน ราคาแค่ 250NT! จึงจัดมาคนละ 1 ซึ่งพนักงานยังคงแกะและใส่ซิมให้เราเหมือนเคย ใช้เวลารอราว 15 นาที มีเคาน์เตอร์ทั้งก่อนและหลังตม. คราวนี้เราต่อแถวตม. 45 นาที น่าจะเพราะเครื่องลงพร้อมกันหลายลำ
รถแท็กซี่สนามบินที่นี่วิ่งตามมิเตอร์ บางคันจ่ายบัตรได้ บางคันเงินสดอย่างเดียว ถามพนักงานที่เคาน์เตอร์บอกว่าไปถึงเบ่โถน่าจะราว 1300NT แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่ 1200NT ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที รถก็มาจอดหน้าโรงแรมเชิ้บบบบบ….
Gaia Hotel Taipei
รร.ในเบ่โถมีเยอะพอสมควร คนมักมาพักเพราะอยากแช่น้ำแร่ ดังนั้นช่วงต้นปีอากาศหนาว วันเสาร์-อาทิตย์รร.ส่วนใหญ่จึงเต็ม ใครรู้ว่าจะมาก็รีบจองแต่เนิ่นๆ
รร.นี้ดีทุกอย่าง พนักงานนอบน้อมมากกกก ห้องพักโอเค ห้องน้ำกว้างและมีบ่อแช่น้ำแร่เล็กๆ ในห้องให้ สำหรับคนที่ขี้เกียจลงไปแช่บ่อรวม มีชากาแฟ ขนมกินเล่น (เจลลี่่มะม่วงอร่อยโฮก กินหมดสิ้นทุกชิ้นไม่เหลือซาก) เตียงดีนอนสบาย มีรองเท้ายางให้ใส่ไปห้องแช่น้ำรวมด้วย
บ่อน้ำแร่รวมแยกชาย-หญิงอยู่ชั้น 3 ที่นี่ใช้วัฒนธรรมญี่ปุ่นคือไม่ใส่อะไรลงแช่ (บางบ่อในไต้หวัน มักมีกฎให้ใส่ชุดว่ายน้ำ) ระบบจัดการเค้าดีมาก คือพอเซ็นชื่อเข้าใช้ จะได้กุญแจล็อกเกอร์คล้องมือให้ใส่ลงแช่น้ำได้ เราเอาสมบัติพัสถานไปเก็บในล็อกเกอร์ เอาผ้าเช็ดตัวห่อตัวเดินไปบ่อได้เลย พอถึงบ่อก็สลัดผ้าวางไว้ตรงขอบๆ นั่นแล
บ่อที่นี่เปิดตั้งแต่ 7.30 เราเลือกแช่ก่อนกินข้าวเย็น 1 รอบ หลังกินข้าวเย็น 1 ชม.อีก 1 รอบ และตอนเช้าตรู่ก่อนกินข้าวเช้าอีก 1 รอบ…รอบนึงไม่ควรเกิน 15 นาทีไม่งั้นสุก เอ้ย! ร่างกายจะอ่อนเพลียมากเกินไป ธรรมเนียมของครอบครัวตัวพี คือแช่ออนเซ็นก่อนกินข้าว พอกินข้าวเสร็จก็กลับมางีบเล็กๆ สัก 1 ชม. จากนั้นค่อยเก็บกระเป๋าเช็คเอาต์
น้ำในบ่อมีให้เลือก 4 อุณหภูมิคือ 20 องศา(เย็นเชี้ยบบบ) 40, 42, 44 องศา มีทั้งบ่ออินดอร์และเอาท์ดอร์ ซึ่งมีเครื่องพ่นหิมะปลอมทำงานเป็นระยะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ (ตอนแรกนั่งๆ แช่อยู่นึกว่าเสียงอะไรกระหึ่มเชียว อ๋อ…หิมะปลอมปลิวลงมานี่เอง…นึกว่าขี้เถ้า 5555) แช่เสร็จก็ขึ้นมากินน้ำเย็นๆ ใครใคร่ซาวน่าเขาก็มีห้องใหญ่โตไว้ให้ใช้ ชากาแฟก็เตรียมให้มุมนึง มีโซฟาสำหรับนอนพักถ้าเพลียจากการแช่น้ำด้วย หน้ากระจกมีอุปกรณ์สำหรับสตรี และครีมต่างๆ พร้อมสรรพ ฟันธงว่ามาตรฐานทัดเทียมญี่ปุ่นเลย ยิ่งมาพักวันธรรมดา ไม่มีใครแย่งเราแช่บ่อรวมสักคน แฮปปี้มากกกก
อาหารเช้าเค้ามีให้เลือกหลายแบบ ทั้งตะวันตกและสไตล์ไต้หวัน เราเลือกแบบไต้หวันถึงรู้ว่ามันคล้ายญี่ปุ่นมาก เพียงแค่แทนที่จะกินกับข้าว เขากินกับข้าวต้มแทน (เติมได้)
ข้อด้อยอย่างเดียวสำหรับคนขี้เกียจเดินก็คือ โรงแรมนี้จะห่างจากตัวเมืองจอแจมาสักนิด แต่เดินไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงนะ ถ้าคิดว่าได้มาอยู่ที่สงบๆ เราก็ว่าดี
ในรร.มีร้านอาหาร 3 ร้านคือ ชาบูชาบู, ร้านอาหารตะวันตก (ลืมชื่อ) และร้านอาหารจีนเสฉวน ทุกร้านได้รับการโหวตว่าอร่อยในย่านนี้ เราได้ลองแค่ชาบูเพราะอากาศหนาวเหมาะกะการซดอะไรอุ่นๆ ซึ่งเราว่าโอเค ราคาน่าจะพันกว่าบาท/คน แต่เราซื้อรวมกับแพ็คเกจของโรงแรม
เราค้างที่นี่ 1 คืน เช้าวันเช็คเอาต์ บอกพนักงานให้เรียกแท็กซี่มารับได้ หรือจะลากกระเป๋าเดินไปสถานี xinbeitou ก็น่าจะใช้เวลาราว 10 นาที
ใครสนใจดูรูปในห้องออนเซ็น (ที่เขาไม่ให้ถ่ายรูป) และรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่
ตลาด Beitou
เบ่โถขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไร การท่องเที่ยวหลักเขาเป็น local tourism ที่ชื่นชอบการแช่น้ำพุร้อนเพียวๆ แต่ไม่วายมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราไม่ขาดกิจกรรม ทั้งตลาดของกิน มิวเซียมน้ำพุร้อน, thermal valley, มีเส้นทางเดินป่าเล็กๆ ให้ด้วย (เสียดายไม่ได้เดิน ฝนตกลื่นมาก) พวกเราหิวและยังไม่อยากกินข้าวที่โรงแรม เลยเดินร่อนเร่ไปเรื่อย เจอคนต่อคิวซื้อขนมจีบก็ซื้อตาม (10 ลูก/ 80 บาท กินหมดใน 4 นาที!) เจอแป้งทอดยัดไส้ก็ซื้อยัดปาก เจอร้านนึงทอดหมูหอมฉุยไปทั้งตลาด ก็ต่อคิวรอกินบะหมี่หมูทอดกับเขาด้วย สั่งไม่เป็นก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊เอา ลุงที่พูดภาษาอังกฤษได้ก็ใจดีช่วยแปลให้บ้าง สรุปว่ากินจุบกินจิบ อิ่มพุงพลุ้ย ตลอดทั้งวัน ไต้หวันนี่สวรรค์นักกินจริงๆ
ปกติตลาดในไต้หวันตอนกลางวันจะเงียบเหงา พอตกหัวค่ำจะคึกครื้นไปจนถึงดึกโน่นแหละ (เรามาผิดเวลา แต่โชคดียังมีของให้กิน)
เดินเล่นใน Beitou
ท้องตึง เท้าก็ต้องทำงาน ไม่งั้นพุงยานแน่ พวกเราเดินเล่นไปเรื่อย ไม่มีจุดหมาย แวะเข้า 7-eleven, family mart, supermarket เป็นว่าเล่น ร้าน Starbucks แถวนี้มีถ้วยกาแฟพะชื่อ Yanmingshan ขายด้วยน่ารักมาก เป็นรูปคนแช่ออนเซ็น (เบ่โถเป็นส่วนนึงของ yanmingshan)
พอเจอป้าย thermal valley ก็ลองเดินตามไป กะว่าเดินเล่นแค่ 1-2 ชม. ก็จะกลับไปแช่น้ำแร่อุ่นๆ ที่โรงแรมให้คุ้มค่า เส้นทางไป thermal valley นี่เดินเพลินมาก มีมิวเซียมเล็กๆ ตั้งริมลำธารน้ำแร่หลายจุด ทางการเค้าทำทางดีเด่นได้โล่ เดินสบายไม่สะดุด ผ่านห้องสมุดสุดโมเดิร์นที่สร้างดี๊ดีน่าเข้าไปตั้งใจเรียน 55 แล้วก็อาคารเก่าแก่สวยๆ หลายหลัง
Thermal Valley
เป็นทางเดินริมธารน้ำพุร้อนราวๆ 1-200 เมตร ที่มีไอสีขาวพวยพุ่งมาจากน้ำตลอดเวลา เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก หากคุณยังไม่เคยไป Beppu ประเทศญี่ปุ่น เพราะมันคล้ายกัน น้ำแร่ที่นี่มีกลิ่นตุอ่อนๆ พอรับได้ บางจังหวะควันก็เยอะมากจนมองทางไม่เห็น แต่บางทีก็อ่อนเบาหวิวๆ กิ๋วกิ้วดี
ด้านหน้ามีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ ด้วย
เดินเล่นดู Thermal Valley สักพัก เราก็พากันเดินออกมา แวะนั่งพักขากินชานมใส่สาคูจิ๋วกับเผื่อกกวนริมทางที่เขาจัดเก้าอี้ไว้ให้ แล้วก็กลับโรงแรม
นักท่องเที่ยวอาจจะมาเบ่โถกันแบบไปเช้าเย็นกลับ เพราะมาด้วยรถไฟไม่ยาก แถมได้อารมณ์เมืองออนเซ็นแบบญี่ปุ่นนิดๆ (เสียดายไม่มีถนนร้านของฝากเด็ดๆ แบบพี่ญี่ปุ่นเขา ไม่งั้นล่ะแจ่มแหว่ม!) แต่ถ้าคอออนเซ็น ข้าเจ้าก็ขอแนะนำอย่างมากให้พักสักคืน เลือกโรงแรมที่เราโอเค เพราะน้ำแร่เขาเด็ดอยู่ มารอบนี้เราก็แช่ไปซะ 3 รอบสะใจมาก
