

เมื่อวานเล็ง Mumin Kaffe ไว้เป็นที่กินอาหารเช้า เช็คจากกูเกิลบอกเปิด 9 โมง ไปถึง 9.30 ปรากฎจริงๆ แล้วร้านเปิด 10 น. เนื่องจากร้านอยู่ท่ามกลางที่อยู่อาศัย ไม่ได้ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เลยไม่มีช้อยส์อื่นให้เลือก
ขณะกำลังยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปอยู่หน้าร้านนั่นเอง พนักงานน่ารักมาก มาเปิดประตูให้เข้าไปนั่งรอได้!! ขอบคุณเค้าแล้วรีบปรู๊ดเข้าไปนั่งทันที กลัวน้องเขาเปลี่ยนใจ
ร้านที่นี่ต่างจากในเอเชีย ตรงเน้นเป็นคาเฟ่จริง เบเกอรี่จริงไม่ได้มีการสร้างสรรค์แพนเค้กบ้านมูมิน หรืออะไรทั้งสิ้น แต่ใช้ถ้วย จาน ชาม และชาของมูมิน (หาซื้อได้ตามซูเปอร์ฯ)
เป็นร้านที่แม่ๆ มักพาลูกเด็กเล็กแดงมาสนิทสนมกับมูมิน มีชิงช้าเล็กๆ ให้นั่งแทนเก้าอี้ด้วย แม่เจ้า! มุมนึงเล็กๆ มีของเล่นเตรียมไว้ให้เด็กๆ ไม่เหมือนในเอเชียที่กลุ่มลูกค้าเป็นคนโตแล้ว ในห้องน้ำมีที่เปลี่ยนแนปปี้ พอตตี้มูมินเตรียมไว้ให้ด้วย ถ้าตอนนั้นมีเจ้าหมีไปด้วย…ฉันก็คงแวะมาที่นี่แหละ (ไม่มีก็ยังแวะ ฮ่าๆๆ)
พอพนักงานเตรียมร้านเสร็จ ก็เอิ้นว่าถ้าอยากสั่งก็ได้เลยนะค้า เราเลยสั่งแดนิชราสพ์เบอร์รี่มา 1 บูกินโดนัท แล้วก็ลาเต้คนละแก้ว ราคาไม่แพงมากเท่าในเอเชีย! นั่งเขียนไปกินไป ชิลล์มาก สักพักแม่ๆ ก็พาเด็กๆ เข้ามากัน

กินเสร็จเดินไปตลาดอาหาร ที่ด้านหน้าเป็นลาน flea market ลานนี้เปิดทุกวัน น่าจะเน้นให้นักท่องเที่ยวด้วยคนขายครึ่งๆ เป็นพวกเอาของไม่ใช้มาขาย ปนกับพวกมืออาชีพ ราคาของจะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พวกมืออาชีพจะแพงเว่อร์มาก (ที่วางไข่ arabia อันจิ๋วเดียว 20 ยูโรบ้าปะวะ ปริ๊นก็เลือนๆ) ส่วนคนทั่วไปจะขายแบบถูกๆ ดีกว่าเอาไปทิ้ง เราได้แก้วบางๆ สีเหลืองสะท้อนแสงมาอัน ไม่รู้หรอกยี่ห้อไรแต่รู้สึกไซส์ ทรง สี มันน่ารักถูกใจดี 15 ยูโร
ซอยเท้ายิกๆ ไป design museum ที่ตอนแรกกะว่าต้องใช้เวลานานแน่
ปรากฎไม่นานเลย เพราะมิวเซียมไม่ใหญ่ วันไปครูพานักเรียนมาศึกษาเรื่องวัตถุดิบและให้หัดสเกตซ์ มีอะไรหนุกๆ ให้เล่นบ้างเช่นสร้างลาย marimekko ของตัวเอง และมีการแนะนำโปรดักส์ที่ดังตลอดกาลของฟินแลนด์ อย่าง marimekko, artek, friskas และอื่นๆ มีคนนึงวาดแพนโทนของสิ่งที่เห็นด้วย 3 สี เช่นสีของชิงกังเซ็น, โตเกียว, โมรอคโค อะไรแบบนี้ เล็กแต่ก็เดินสนุก ใครชอบและอยากศึกษาเกี่ยวกับฟินนิชดีไซน์โปรดักส์ทั้งหลาย แนะนำอย่างยิ่งยวด
และแน่นอนว่า มิวเซียมช็อปก็แซบมาก งืออออออ
ตอนเที่ยงคุณบูมีนัดกับเจ้านายเก่าเค้า ซึ่งสองคนนี้ไม่ได้เจอกันนาน คุณอดีตเจ้านายจัดทริปมาทำงานฟินแลนด์รอบนี้เพื่อเจอบูโดยเฉพาะ รีบซอยเท้าไปเพราะกลัวสาย (ก็ยังแอบแวะร้านอาราเบียจนได้นะ)
อะไรไม่เท่า ร้านที่เค้าพาไปนั้น ปลาทอดเด็ดดวงมาก! ทำดี ราคาไม่แพงมาก สุดยอดอยากกินอี๊ก (ชื่อร้าน salutorget) อยู่ใกล้ท่าเรือ กินเสร็จก็ลงเรือไปเที่ยวเกาะอีกฝั่งนึงได้เลย
และการได้เจออดีตเจ้านายบู ที่ตอนนั้นทำงานดูแลแผนกของประเทศในสแกนดี้ทั้งหมด คอนเฟิร์มว่าค่าครองชีพที่นอร์เวย์แพงที่สุดในสแกนดี้จริงๆ …

กินเสร็จเมาท์มอยเรียบร้อย พวกเรานั่งเรือข้ามฟากไปดู fortress ซึ่งอยู่บนเกาะอีกฝั่งนึงชื่อว่า Suomenlinna
ปกติเราไม่ค่อยได้แพลนแผนเที่ยว มีคุณบูนี่แหละคิดคร่าวๆ ไว้ว่าวันนี้จะไปไหนบ้าง ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องถึงกับนั่งเรือไปดูป้อมปราการเก่าแก่บนเกาะด้วย
คำตอบก็คือ…ความสำราญไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย มันคือความรื่นเริงระหว่างทางไงอัยเอ๋น้อย
แค่นั่งเรือไปก็ชิวละ ดีตรงใช้เวลาแค่ไม่นาน ไฮไลท์สุดคือการได้เดินเท้าชมเกาะไปเรื่อยๆ ในวันที่อากาศดี แสงแดดสดใส ลมเอื่อยๆ พัดใส่หน้า หันไปเห็นนกกาต้นไม้เขียวๆ
บนเกาะมีมิวเซียมหลายแห่ง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประวัติเกาะที่เคยเป็นฐานที่มั่นทหาร มีบ้านนายเรือยศสูงผู้ก่อตั้ง มีความสวยงามธรรมชาติให้ชื่นชม และเหนืออื่นใดคือ Vintage toys museum ที่มีคาเฟ่ด้วย (บนเกาะมีคาเฟ่ยุบยั่บแฝงตัวกับทุกมิวเซียม ตั้งโดดก็มี ห้องน้ำเพียบ อิแม่ที่กำลังท้องและต้องเข้าห้องน้ำบ่อยนี่แฮปปี้มาก)
เราแวะแค่ vintage toys cafe เพราะอยากพักขาละ และคิดว่าน่าจะฟินที่สุด…
และจริงดังคาด
ตัวคาเฟ่เองขนมอร่อย ชาอร่อย ของน่ารักขายเพียบ จะเลือกนั่งด้านในหรืออาบแดดอุ่นๆ ข้างนอกก็ได้ แม้มิวเซียมจะเล็กมาก แต่ของเล่นน่ารัก รายละเอียดยุบยิบ ถ้าใครชอบนี่ได้จ้องกันตาส่อน แน่นอนว่ามีตุ๊กตามูมินและผองแก๊งค์เก่าแก่ให้ได้ดูด้วย


กินเสร็จก็ลอยๆ เดินเล่นบนเกาะไปเรื่อยๆ สิริแล้วก็ 3 ชม.กว่าๆ ถึงขึ้นเรือกลับฝั่ง มาเดินเล่นเมือง เข้าร้าน artek เข้าซูเปอร์ เดินไปทั่ว เป็นอันจบวันที่สองของทริปฟินแลนด์ แดนมูมิน
พรุ่งนี้กระชุ่มกระชวยไปอีกแบบ เพราะบูจะพาไปช้อปปิงที่ arabia outlet กับ marimekko outlet