วันที่สาม…shopping day…yeah!
แต่ก่อนอื่น..ตื่นเช้ามา พวกเราพากันไปดูโบสถ์ที่สร้างจากการเจาะหินลงไปเป็นวงกลม บูบอกว่าเป็นที่นึงที่คนชอบไปดูกัน อ่ะไปก็ไป…
ที่นี่เองทำให้เรารู้ว่า มีทัวร์จีน ไทย ญี่ปุ่น มาเฮลซิงกิมากแค่ไหน เพราะคนที่มาตรงนี้ เป็นคนเอเชียที่มากับทัวร์ซะ 80% เลยจ้ะ เสียงเซ็งแซ่ทีเดียว
เดินดูๆๆ แล้วรีบเด้งออกมา…



เรากลับไปหาอาหารเช้ากินกันที่เดิมกับเมื่อวาน Kauppahalli saluhall พบว่าไปเช้าเกินไป มีเพียงร้านเดียวที่กำลังจะเปิด ก็กินมันร้านนั้นแหละ(ไม่แนะนำ) กินเสร็จออกไปเดินย่อยด้วยการช้อปปิ้ง flea market ด้านหน้ากับคุณป้าเจ้าเดิมที่อุดหนุนไปเมื่อวาน ได้ที่ใส่เทียนมาอีกอันในราคา 10 ยูโร
ที่มากินข้าวตรงนี้ เพราะด้านหน้ามีรถแทรมสาย 6, 6T ไปถึงโรงงาน Arabia เลย นั่งไปดูบ้านเมืองเค้าไป พอถึงป้ายคนก็ลงจำนวนนึงเลยนะ ที่นี่มีมิวเซียมเล็กๆ ที่ทำ timeline ของงานที่เค้าออกแบบทั้งฝั่ง Ittala(แก้ว) และ Arabia (เซรามิก) ดูเพลินๆ ดี






แต่…แอบผิดหวังที่…ไม่เห็นจะถูกกว่าในเมืองเลยจริงๆ นะ เอาเป็นว่าถ้าใครคิดว่ามาแล้วจะเจอของดีของเด็ด ของถูกมากๆ ล่ะก็ ผิดหวังแน่นอน (เช่นเรา กร๊ากกกก) แต่ไหนๆ มาแล้วก็ช้อปค่ะ ถือซะว่ามาดูแกลลอรี่ของเค้า แล้วได้การช้อปปิ้งเป็นของแถมละกัน
ในร้านมีบริการกาแฟฟรี ด้วยการใช้ถ้วยกาแฟของ issey miyake ที่ทำงานร่วมกับ Ittala ด้วย (เฉยๆ ฉันผิดหวังกะนาฬิกา issey มาก ที่ขนาดว่า swatch ยังดีกว่าไม่รู้กี่เท่า ราคาถูกกว่าเยอะมาก) ก็ได้ของไปจำนวนนึง
สิ่งที่ช็อกคือ ของที่ซื้อแล้วขอคืนภาษีห้ามเอาออกจากถุงที่เค้าซีลเทปไว้เด็ดขาด จนกว่าจะให้เจ้าหน้าที่ที่สนามบินตรวจ! นั่นเท่ากับว่าเอามารีแพ็คอะไรไม่ได้เลยจ้า จ้า จ้า….แล้วข้าจะไปหนามบินยังไงงงงง
ก็คงต้องไปรีแพ็คกันที่สนามบิน หลังจากขอคืนภาษีเรียบร้อย กฎแต่ละประเทศต่างกันเนาะ นอร์เวย์นี่แบบไม่แม้แต่จะเรียกดูของ แทบจะปาเงินใส่ ใช้เวลาคืนภาษีน้อยกว่า 1 นาที
ช้อปเสร็จนั่งแทรมสายเดิมกลับมาที่เดิมเพื่อกินกลางวัน เดินวนรอบนึงทั่วตลาดทั้งสองชั้น ด้านล่างขายของสด มีของกินแบบเย็นขายบ้าง ส่วนชั้นบนขายของจุกจิก marimekko ก็มาเปิดร้านที่นี่ด้วย มีร้านพวกถ้วยชามวินเทจบ้าง แต่ไม่ถูก (เธอยังหวังจะเจอของถูกอะไรในประเทศนี้อีกเหรอ ยัยเอ๋น้อย!!) เราได้บ้านจิ๋วหลังนึงมาในราคา 12 ยูโร
ลงมากินซุปชั้นล่าง ซึ่งเป็นร้านเดียวที่มีอาหารร้อนขายในตลาด เราสั่งบูยาเบย์ และบูสั่งซุปหมูฝอยกับบะหมี ปรากฎเราแลกกับบูเพราะซุปหมูฝอยมันรสชาติเอเชียมากกกกกก อร่อยมาก กินจนซุปหมดชาม ยังจำสูตรกลับมาทำที่บ้านไว้กินตอนหน้าหนาวเลย แค่ต้มกระดูกหมู ใส่แครอท มะเขือเทศ หัวหอมจนเปื่อย แล้วโรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม สะระแหน่ กินกับโซเมนหรืออุด้งก็ว่าไป … แซบ




โปรแกรมภาคบ่ายเป็นการไป marimekko outlet!
หลังจากผิดหวังกับ arabia นิดนึงตอนเช้า เราก็คาดหวังอะไรมากมายในตอนบ่าย หน้าตลาดมีทางลงรถซับเวย์ออกไปนอกเมืองก่อน เพื่อจะต่อรถบัสสาย 79 จะถึงจุดหมาย marimekko outlet ดูป้ายลงยากเหมือนกัน ต้องศึกษา google map ดีๆ หรืออีกทีคือนั่ง uber ไป
จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นรูป marimekko outlet จาก ig คนญี่ปุ่นแบบแรนดอมนี่เราอยากไปเห็นว่ามันจะยังไง ความตื่นเต้นมีเหมือนตอนจะได้ไป ikea ครั้งแรกอย่างบอกไม่ถูก แต่กว่าจะได้มาจริงๆ ก็ผ่านไปหลายปีอยู่ แต่ความตื่นเต้นก็ดูเหมือนจะพอๆ กับตอนแรก 555
อ่ะ…พอไปถึงอยากกินขนมมาก เพราะกินอาหารกลางวันมายังไม่ได้ขนมเลย (โทษความท้องอ่ะแหละ เดี๋ยวง่วง เดี๋ยวหิว เดี๋ยวปวดฉี่ มันวนๆ อยู่แค่นี้) จึงพุ่งไปคาเฟ่ กรี๊ด น่ารักเชอ ทุกมุมคือมารีเมกโกะ ถ่ายรูปๆๆๆ หันไปเห็นไอติมที่เค้าวางไว้ อ้าว นั่นไอติมของพนักงานกินไม่ได้ เลยสั่งเค้กช็อกโกแลตกับไอติมในคัพมากิน (ทุกอย่างรสชาติเฉยๆ)








เจอน้องพนักงานคนไทยที่นี่ด้วย น้องก็บอกไม่ค่อยเห็นคนไทยมากันเท่าไร (คือมันไกลเหมือนกันเนาะ 55) กินอย่างเร็ว แล้วก็เอาของไปฝากไว้หลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
เดินเข้าไปเลือกเสื้อผ้าอย่างแรก ราคาไม่แพงเท่าที่ช้อป แต่ก็ไม่จัดว่าถูกถล่มทลาย ไซส์เอเชียอย่างเราก็ไม่ได้หากันง่าย ที่ทำให้ล้มละลายหนักคือพวกผ้าตัดเป็นเมตรทั้งหลาย เพราะบางลายมันถูกกว่าที่อื่นมาก และไม่เคยเห็นที่อื่นมาก่อนก็มี แต่ราคาของหลายๆ อย่างที่นี่ พอๆ กับราคา Sale เวลาซื้อที่ US ดังนั้นเราเลยไม่คิดจะแบกพวกมัค หรือจานกลับ เพราะลายมันเหมือนกันไม่มีไรใหม่ให้เลือก
สรุปว่ายัยเอ๋น้อยได้ผ้ากลับไป 7 เมตร ทั้งที่ตัวเองตัดเย็บอะไรไม่เป็น ซื้อไว้ก่อนเพราะน่ารักดี ประกอบกับพนักงานน่ารัก เชียร์เก่งด้วย




โผเผออกมานั่งบัสสายเดิมกลับสถานี แล้วนั่งรถไฟมาลงใกล้ๆ บ้าน เดินเอาของมาเก็บ แล้วรีบออกไปร้านอาหาร เพราะใกล้เวลาที่จองแล้ว
วันนี้เป็นวันแรกที่จองร้านอาหาร ชื่อ Spis เราเดินผ่านกันเมื่อวันก่อน พบว่าน่าสนใจมากตรงที่
1.ป้ายร้านไม่มีชื่อ แต่เป็นรูปแครอต
2.ตรงประตูร้านมีชื่อร้าน แต่ตัวเล็กจิ๋วและสีดำสนิท อ่านยากมาก!
เหมือนไม่อยากให้คนรู้อะว่าเป็นร้านอาหาร จึงคิดว่าเราควรมากิน เพราะมันดูลึกลับดี 555
บูอ่านๆ แล้วพบว่าร้านนี้เน้นอาหารจากผัก พอมากินจริงพบว่า เค้าเน้นผักจริงๆ แต่เป็นธีมผักที่มีหลายเท็กซ์เจอร์และรสชาติ เช่นลีกที่เป็นลีกต้ม ลีกอบกรอบ ลีกผสมซาว์ครีม รวมอยู่ในจานเดียวกันแล้วรสกลมกล่อม
หรือมะเขือเทศสด แห้ง พูเร รวมกันในจานเดียวอะไรแบบนี้ เพิ่งเคยเห็นคนทำธีมแบบนี้จริงจังแล้วก็เวิร์กนะเหนืออื่นใดคือขนมปังซาวด์โดว์เค้าอร่อยมาก เรากินเนยเค้าแบบ 2 ถ้วย 55555 และกินขนมปังไปราวๆ 4 แผ่นได้ มิน่าล่ะจุ๊กจุก
อาหาร 6 คอร์ส ไม่รวมพวกยิบย่อยจุกจิก และบูกินเหล้าไป 3 แก้ว คิดเงินออกมา 188 ยูโร คืออร่อยและดีใจมากที่ได้มากินร้านนี้ปิดท้าย ท่าทางจะอยู่ในลิสติงคนญี่ปุ่นด้วย เพราะคนญี่ปุ่นมากินกัน 2 โต๊ะตอนเราอยู่
แน่นอนว่าคนญป.มาเที่ยวเฮลซิงกิกันเยอะมาก ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่ามาจาก มูมิน มารีเมกโก อาราเบีย แค่สามอย่างนี้ก็คงเพียงพอแล้วอะเนาะ 5555
กินเสร็จบูส่งเรากลับบ้านมาเก็บของอะไรรอ ส่วนตัวเองออกไปซาวน่า เพราะที่นี่เป็นซาวน่าแลนด์ เลยอยากให้บูได้ลองไปดู ส่วนอิฉันตอนนั้นยังท้องจึงไม่ไปจ่ะ
บูกลับมาจากซาวน่าราวห้าทุ่มครึ่ง เล่าให้ฟังว่าห้องซาวน่ามี 2 แบบคือ smoke sauna (70C up) กับซาวน่าธรรมดา (60C) ตบท้ายด้วยคำพูดของอดีตเจ้านายที่บอกเมื่อคุยกันตอนบ่ายเมื่อวานว่า “แล้วเธอจะได้พบกับนิยามใหม่ของคำว่าร้อน”
ที่ๆ บูไปชื่อ loyly (19 euro ต่อคน อีกที่นึง 12 euro) ที่นี่เค้ามีบาร์ที่ค่อนข้างป๊อบ ด้านนึงเลยจะเป็นคนใส่สูทมาดริงค์ อีกด้านเป็นคนใส่ชุดว่ายน้ำโพกผ้าเช็ดตัวเดินเพ่นพ่านไปมา…อย่างลงตัว
ห้อง smoke sauna ทำเอาบูที่เป็นเจ้าพ่อซาวน่าถึงกับปวดหัวในครั้งแรกที่เข้าไป เพราะมันร้อนมากๆ และไม่น่าจะมีใครอยู่ได้นานเกิน 10 นาที (ถ้าเป็นเราคงเผ่นออกมาตั้งกะนาทีแรก) กระนั้นก็ยังมีลุงบ้าพลังคนนึงบอกให้คนตักน้ำราดหินเข้าไปอีกให้ควันพวยพุ่งเพิ่มฟามร้อน บูบอก “ขนคอฉันไหม้เป็นจุลเลย”
ที่นี่เป็นเหมือนแหล่งนัดพบปะพูดคุย ประหนึ่งเป็นคลับเป็นบาร์ บางคนเอาเบียร์เข้าไปดื่มในห้องซาวน่าเลยจ้า (มันจะดีเรอะ) แล้วก็คุยกันเหมือนนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ ทั้งที่สวมใส่เพียงชุดว่ายน้ำ ในนั้นมีเตาผิง น้ำดื่ม และเครื่องดื่มให้สั่งได้ เป็นหนึ่งในการโซเชียลกันของคนฟินแลนด์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
อ่านจากนิตยสารบนเครื่อง บอกว่าประชากรฟินแลนด์มี 5.5 ล้าน แต่มีซาวน่าราว 3.3 ล้านแห่ง (รวมในบ้าน) ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองมีซาวน่าสาธารณะเยอะ แต่พอหลังสงครามก็ปิดไปมาก เนื่องจากคนสร้างห้องซาวน่าไว้เองที่บ้านจ้า ทำให้การซาวน่าเป็นเรื่องปกติจนไม่มีใครคิดจะทำ public sauna ขึ้นมาจนกระทั่งหลังๆ ที่เขารวมเอา seaside pool เข้ามาด้วย มันเลยกลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าทำเมื่อมาฟินแลนด์
“เป็นประสบการณ์ที่สนุกดี” บูกล่าว
วันสุดท้ายไฟล์ทเราตอนเที่ยงๆ บูต้องเรียก uber มารับไปนั่ง finnair airport bus อีกที เพราะลากกระเป๋าไปไม่ไหว มีถุงกระดาษงอกมาอีก 3 ใบจ้า ค่ารถ 9.5 euro ใช้เวลาเดินทางสั้นมาก

สนามบินเฮลซิงกินี่…เดินสนุกมาก มี marimekko, moomin และอื่นๆ อีกมากมายให้ช้อปจนวินาทีสุดท้ายเลยข่า ที่บอกว่ามาก่อนบิน 4 ชม.จะเร็วเกินไปนั้น…ไม่จริงนะ พอกินข้าาว เดินช้อป ได้ขนม ของฝาก เหล้ายาปลาปิ้ง เดินดมนั่นดูนี่ ก็ได้เวลาไปเกตแล้วอะ มีร้านรวงคอยดักล่อเราตลอดทางเลยสนุกจริงๆ และราคาของที่สนามบินก็พอๆ กับข้างนอก โปรโมชั่นเดียวกันเด๊ะ
ห้องน้ำสนามบินเยอะมาก และคนน้อยมาก
ผ่านด่านตรวจแบบเร็วมากเพราะไร้คิว!
เออพูดถึงการคืนภาษีนิดละกัน
อาจเพราะไฟล์ทเราไม่ตรงกับเวลาของไฟล์ททางเอเชีย (เราบินกลับนิวยอร์ก) ที่เคาน์เตอร์ Global blue คิวเลยไม่ค่อยยาว (อีกยี่ห้อนึงคือไร้คิวไปเลยข่า) รอไม่นานก็เสร็จ ถ้าอยากได้เงินสดคืน จะคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ยูโร (เศษคิดเป็น 100 euro) และต้องไปรับด้านในแถวๆ เกต 29
อดรนทนไม่ไหว ถามพนักงานที่ตรวจใบเสร็จว่าจำเป็นไหมที่ต้องเอามาทั้งถุงกระดาษแบบนี้
นางบอกถ้าจะตรวจก็ต้องเห็น
แต่วันนี้นางไม่ตรวจ….
อ่ะจ้ะ!!!!!!
พวกเราจัดการเอาของทั้งหลายยัดใส่เป๋า (พึมพำปลอบตัวเองเบาๆ)
สรุปว่ามีเป๋างอกมาอีกแค่ 1 คือเป๋ามูมิน แต่หนักอึ้งมาก เพราะยัดหลายสิ่งที่ซื้อจากหนามบินลงไปอีก (ช้อปจนหยดสุดท้าย!) ดังนั้นควรมีการตระเตรียมกระเป๋างอกให้พร้อมเพรียงด้วยนะคะทุกคน
บนเครื่องฟินแอร์ ถ้านั่ง ecoomy comfort จะได้เป๋า marmekko ด้วย! (คือไม่แน่ใจว่าการเสียตังเพิ่มขนาดนั้นจะคุ้มกับเป๋าหรือไม่ เพราะอิฉันก็บินแค่ economy) แต่ชั้นประหยัดก็มีผ้าห่มกับหมอนสีสันสดใส และลาย marimekko เช่นกัน รวมถึงสินค้าที่ทางเขาออกแบบให้ขาย และมี moomin เฉพาะบนเครื่องด้วย สมเป็น national icon จริงๆ สองแบรนด์นี้ (แต่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย ดูเพลินๆ ไป)
ปล.บนเครื่องฟินแอร์ เสิร์ฟอาหารที่ให้นักเรียนรร.ประถมโหวตมา ว่าเค้าชอบอะไรที่สุด แล้วก็เลือกอันดับต้นๆ มาทำ น่ารักจริง