วันที่ 21 กพ. 2016
อากาศ 15 องศา
มี Monsoon Signal warning ตอนเช้าด้วย (ลมจะแรง)
อุปกรณ์
น้ำคนละ 1 ลิตร
กล้วยไข่ 2 ลูก
แซนวิชชาเขียวนมข้น 3 คู่
กูเจล 1 ซอง / เทรลมิกซ์ 1 แท่ง / ลูกอมสตรอว์เบอร์รี่ กำมือ (ไม่ได้กินเลย)
ทางไป
ลงสถานี Choi Hung exit C2
ขึ้นมินิบัสหมายเลข 1A ลงสุดสายที่ Sai Kung Bus Terminus
แล้วต่อบัสหมาย 96R ลง Pak Tam Au (ราว 20 นาที)
จะถึงทางขึ้นเทรล
หรือ…เรียกแท็กซี่เขียวจาก Sai Kung Bus Terminus ไปลง Pak Tam Au
ค่ารถราว 80 HKD ลุงมักจะรู้จักทางขึ้นเทรลกันดีอยู่แล้ว
สรุป
เทรลนี้ใช้เวลาเดิน 3.33 ชม. (รวมแวะกินเต้าฮวย)
ระยะทาง 10.3 กม.
ระยะเวลาโดยประมาณโดยปกติ 4 ชม. (ตามป้ายบอก)
เริ่มต้น
เป็นเทรลในเขต NT ที่มีคนนิยมมาเดินกันประปราย ตอนเรายืดเส้นสายก่อนเริ่มเดินขึ้น ก็เห็นคนเดินผ่านขึ้นไปก่อนราว 5-6 คนได้ เล้กแรกเป็นการเดินขึ้นบันไดหิวเพียวๆ ขึ้นสู่ยอดเขาลูกที่ 1 ขึ้นเลาะใต้ป่าไปเรื่อยๆ จนสูงเห็นภูเขาหลายลูกล้อมรอบและทะเล (Port Shelter) เห็นภูเขาสลับซับซ้อนเป็นชั้นลดหลั่นกันไปเรื่อยๆ เป็นอะไรที่วิวสวยงามตามาก ลมแรงเป็นบางจุด ใครมาควรมีเสื้อกันลมติดมาสักนิด วันนี้เดินไม่เหนื่อยมากเพราะอากาศเย็นเยือก 10 นาทีแรกที่เดินนี่แทบจะต้องเอามือซุกกระเป๋าตลอดเวลา ไม่งั้นปลายนิ้วชา
พอถึงยอดเขาลูกแรก จากนั้นทางก็จะเป็นเนินสูงต่ำเตี้ยๆ สลับกันไปเรื่อยๆ ช่วงนี้ค่อนข้างสนุก เพราะเราซุกตัวเข้าไปใต้ป่า เห็นใบไม้ ดอกไม้ ต้นไม้เขียวๆ สบายตา ประกอบกับวันนี้ไม่มีแดดเลย หยิบแซนวิชมากินกันเป็นระยะ ส่นวกล้วยไข่ 2 ลูกนั้นหมดไปตั้งกะ 30 นาทีแรก เพราะเช้านี้กินข้าวมาน้อย
ปกติเวลาไปเดินไหนมักจะชอบทำเวลาไปด้วย แต่วันนี้ไม่รุ้ทำไม เดินแบบสบายๆ กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ (หรือเพราะแบกกล้องมาด้วยก็ไม่รู้ เลยจอดร่างถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้อยู่เรื่อยๆ) ช่วงนี้ดอกไม้บางอย่างเริ่มผลิ ยอดอ่อนของเฟิร์นก็มีให้เห็นตลอดทาง
เราจบครึ่งแรกของการเดินด้วยการแวะกินเต้าฮวยร้าน Hui Lam Store ที่เป็น A Must ของการเดินเทรลนี้มาก คือมันน่าตื่นเต้นนะ ขึ้นเขาลงห้วยมาพักใหญ่ เว้ยเฮ้ย…อยู่ๆ ก็มีเพิ่งขายเต้าฮวยอยู่กลางป่า (ด้านหน้าเป็นลานกางเต็นท์ค้างแรมด้วย และ…ไปทีไรก็จะเจอคนมากางเต็นท์สัก 2-3 เต็นท์ตลอด) ในร้านมีรูปลุงถ่ายกับโจวเหวินฟะติดให้ดูดาษดื่น แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเต้าฮวยลุงอร่อยมาก (ชามละ 12 HKD) คือมีน้ำเชื่อมขิงมาให้ตักใส่ได้ตามใจชอบ เราตักน้ำตาลกรุบกรอบสีส้มๆ โรยหน้าได้ตามใจ ใครอยากเบาหวานมากน้อยก็ตามสะดวก ขอย้ำว่าการมากินเต้าฮวยร้านลุงเป็น “A Must” ของการเดินจริงๆ เพราะบรรยากาศหนึ่งด้วย แถมเค้าใช้น้ำลำธารจากธรรมชาติมาทำเต้าฮวยเลยได้แร่ธาตุเสริมบำรุงกำลัง(งานมโน) เขามีขายพวกขนมจีบ บะหมี่ด้วยสำหรับคนที่ต้องการของคาว และลุงเจ้าของพอพูดภาษาอังกฤษได้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือคนเดินเขาทั้งสิ้นทั้งปวง ไปทีไรเห็นวัวยืนต้อนรับตลอด (อยู่ราวๆ distance post ที่ M54 เราเริ่มที่ M39 คือเดินมาราว 3 กม.จากจุดเริ่มจะเจอ)
จากจุดเต้าฮวย เราเดินต่อ…ทางเริ่มขึ้นเขาและเนินสลับไปเรื่อยๆ จะบอกว่าทางแถวนี้ธรรมชาติมาก คือไม่ค่อยมีใครมาหยิบหินออกให้เท่าไร เดินลำบากใช้ได้เลยและ โดยเฉพาะทางขึ้นเขาสูงๆ ลูกสุดท้าย…ยกให้เป็น “ทางออฟโรด” มากๆ คือพื้นมีแต่หิน แต่ละก้าวนี่ต้องระวังสุดยอดไม่งั้นขาอาจพลิก แต่ก็เป็นอะไรที่สนุก เหนื่อย (โดยเฉพาะตอนทางขึ้นเขา) ได้เบิร์นดีเยี่ยมมากๆ ประกอบกับวันนี้อากาศดีอย่างที่บอก ทำให้เดินได้ชิลล์มาก หยุดยืนดูวิว พักกินแซนวิชกันบ้างเป็นระยะ แล้วก็เดินต่อ ช่วงนี้ไม่เจอใครเลย ข้างทางได้ยินแต่เสียงฝีเท้านก(ตัวใหญ่ๆ)คุ้ยหาอาหารสวบสาบ (ตอนแรกนึกว่าหมูป่า)
เล้กสุดท้ายเป็นการเดินลงเขาที่…ยากพอใช้ได้เลย คือหินตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด มีบันไดสลับบ้างเป็นระยะ ถ้ามีไม้เดินป่าเอามาก็จะช่วยได้มาก แต่ก็เป็นช่วงที่เราทำเวลาได้ค่อนข้างดี อาศัยกราวิตี้ดึงร่างตัวเองลงไป พยายามพยุงตัวไว้อย่าให้กลิ้งลงไปเป็นพอ อีกอย่างท้องเริ่มหิวแล้วด้วย
จุดสิ้นสุดของเทรลนี้คือ distance post ที่ M70 จะเป็น Picnic site ที่มีห้องน้ำและเครื่องขายน้ำอัตโนมัติด้วย! พอยืดเส้นยืดสายเสร็จ ก็ให้เดินไปทางซ้ายมือไม่เกิน 500 เมตรจะเจอป้ายรถเมล์สำหรับขึ้นกลับไปไซกุง (ทุกสายไปไซกุงเหมือนกันหมด) หรือจะรอเรียกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านไปมาก็ได้ ถึงผ่านไม่บ่อย แต่ก็พอมีให้เรียกอยู่
แน่นอนว่า…มื้อเย็นวันนี้ ต้องเป็นร้านอาหารซีฟู้ดสักแห่งในไซกุง หึหึหึ

- ยอดเขาลูกที่ 2 สูงแค่ 399 ม. แต่ถ้าเดินตั้งแต่ 0 เนี่ย มันก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ…
One thought