
หนึ่งวันแดดดี ที่ดรอตติงโฮล์ม
น้องสาวคนหนึ่งที่เคยไปเรียนต่อด้านการเงินที่มหาวิทยาลัยในสตอกโฮล์มบอกเอ๋ว่า
ปีนั้นทั้งปี ทางการสวีเดนประกาศบอกวันแดดออกทั้งปีว่ามีเพียง 26 วัน
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ เมื่อวันหนึ่งน้องสาวที่ว่า จะถ่ายรูปดวงอาทิตย์รำไรโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก
พร้อมสเตตัส ‘Sun is rare’ ยังบอกตัวเองว่าพวกเรานี่โชคดีแท้
เพราะวันที่ขึ้นเรือออกจากฝั่ง ดินทางไปยังดรอตติงโฮล์มนั้น
ฟ้าเปิดแจ้งจางปาง ไร้ปุยเมฆขาวฟูบังดวงอาทิตย์ให้หนาวใจ
หากมาเที่ยวสวีเดน การนั่งเรือล่องผ่านหมู่เกาะต่างๆ เพื่อเดินทางไปยังพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม
ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจ เพราะมีโอกาสได้เห็นทั้งทิวทัศน์เกาะแก่งต่างๆ
และได้ชมความสวยงามของสวนและพระราชวังอันยิ่งใหญ่
คิดว่าใช้เวลาเที่ยวค่อนวันได้สบายๆ โดยเฉพาะวันอากาศดี แดดออกเปรี้ยงปร้างเช่นวันนี้
เดินสบ๊าย! (กลับที่พักในสภาพหน้าไหม้นิดหน่อย ต้นคอแอบเปลี่ยนสีนิดๆ เอง – -“)






พระราชวัง Drottningholm
นั่งเรือ 45 นาที เราก็มาลอยลำตุ๊บป่องอยู่หน้าพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม (Drottningholm Slott)
วังนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Lovön ตระหง่านหันหน้าหาทะเลสาป Mälaren อันสวยงาม
ที่นี่ถูกคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1991 ในฐานะตัวอย่างของพระราชวังสวีเดนในยุคศตวรรษที่ 18
และแสดงถึงสถาปัตยกรรมยุโรปอันงดงาม
ภายในประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือพระราชวังของเหล่าราชวงศ์สวีเดน
รวมถึงสวนอันกว้างใหญ่งดงามด้านหลัง โดยส่วนที่ประทับจะปิดไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม
ส่วน2 คือโรงละครดรอตติงโฮล์ม (Drottningholms Slottsteater) และสามคือไชนีสพาวิลเลียน (The Chinese Pavilion)


แค่แตะเท้าเข้าไปในวัง ฉันก็ตกอยู่ในกิริยาที่เรียกว่าตะลึงจนปากหวอ เพราะมันช่างอลังการงานสร้าง
ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ขอบทองอร่ามลวดลายม้วนเกลียว แบบที่แอบเหมาเรียกเอาเองว่าเป็นเฟอร์ฯหลุยส์
เพดานโค้งสูงลิ่วจนต้องแหงนคอตั้งบ่า ถูกแต่งแต้มด้วยภาพวาดเหล่านางฟ้า เทวดาและหญิงสาวเปลือยอก
ม่านประดับรายละเอียดยิบที่รู้ว่าหนักอึ้งแม้แค่มองด้วยสายตา แชนเดอร์เลียร์ระย้าช่อยักษ์ ตู้สลักด้วยมือ
และของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย
รู้สึกสนุกเป็นพิเศษตอนสำรวจห้องลับที่สร้างเชื่อมกับห้องประชุม เพื่อให้คนเข้าไปลอบฟังการสนทนาได้
ก่อนยืนนิ่งปากหวอ (อีกครั้ง) อยู่กลางห้องแสดงภาพวาดขนาดใหญ่บึ้มของบุคคลสำคัญต่างๆ ในยุโรป
นึกไม่ออกจริงๆ ว่าสมัยก่อนตอนสร้างกรอบที่ใหญ่พอใส่ภาพเหล่านี้ได้จะยากเย็นแค่ไหน
และถ้าฉันต้องอาศัยหลับนอนในนี้ ความมืดตอนกลางคืนจะน่าขนพองเพียงใด
ก็สมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ นี่ขนาดอยู่กลางวันแสกๆ ยังหวิวบอกไม่ถูก
แต่ก็นะ ถ้าได้แลกกับการมีสาวใช้ปรนนิบัติพัดวีตั้งแต่ลืมตาจนเข้านอนก็น่าจะคุ้มอยู่นา
อะไรนะ…อ๋อ…อย่าเพ้อ? เอาน่า…ขอสามัญชนอย่างอิฉันฝันสักครั้ง ก็บรรยากาศมันพาไป!
จากที่เมื่อครู่มองสวนขนาดใหญ่ผ่านหน้าต่างชั้นสองของพระราชวัง
ถึงคราวฉันลงมาเดินทอดน่อง อาบไอแดดในสวนด้านหลังซึ่งได้รับการตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบบ้าง
สวนของวังใหญ่ยักษ์อลังการบานตะไท เดินไปเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละส่วนมีคาแรคเตอร์เฉพาะของตัวเอง
บางส่วนก็ปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นครึ้ม บางส่วนก็จัดเป็นสวนแบบซีเคร็ตการ์เดนท์
บ้างก็ทำเป็นกำแพงต้นไม้ขนาดใหญ่ บางส่วนทะเลสาป เดินไปเหมือนอยู่ในป่าฉากหนึ่งของนิทาน
ระหว่างนั้นก็คิดได้ว่า ธรรมชาตินี่ช่างยิ่งใหญ่ และตัวเรานั้นมันเล็กจิ๊ดเดียวเอง
เป้าหมายการเดินอยู่ที่ ไชนีสพาวิลเลียน (The Chinese Pavillion)
ซึ่งเป็นเรือนประทับสไตล์จีน แต่ว่าระหว่างทางเจอคาเฟ่ซะก่อน
เลยแวะนั่งพักผ่อนเล็กน้อย…. ^^








คาเฟ่ Serveringen
เมื่อขาส่งเสียงประท้วง ฉันแวะพักที่ Serveringen ซึ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ อยู่ก่อนถึง Chinese Pavilion
ในวันแดดดีแนะนำให้นั่งด้านนอก เพราะบรรยากาศโรแมนติกเป็นใจต่อการชี้นกชมไม้ของหนุ่มสาว
วันไหนอากาศหนาว ด้านในมีเตาผิงขนาดใหญ่ให้นั่งซุกอุ่น
การได้จิบชาแกล้มวาฟเฟิลกับครีมและแยมราสพ์เบอร์รีในสวน ท่ามกลางดงไม้สูงสล้างของที่นี่
ติดอันดับท้อปทรีความประทับใจประจำทริปสวีเดนของฉันอย่างเต็มภาคภูมิ
คาเฟ่แห่งนี้แต่เดิมเป็นครัวเก่า ตั้งอยู่ด้านล่างห้องอาหารของราชวงศ์
สมัยก่อนเวลาจะเสิร์ฟอาหาร ไม่จำเป็นต้องแบกถาดเดินขึ้นเนิน คลานเข่าเข้าวางจานแต่อย่างใด
เพราะที่พื้นห้องมีกลไก ให้สามารถหย่อนโต๊ะอาหาร (พร้อมพื้นห้อง) ลงไปที่ครัวด้านล่างได้ทันที
เมื่อแม่ครัวและสาวใช้จัดโต๊ะเรียบร้อยค่อยไขยกโต๊ะกลับขึ้นไป










The Chinese Pavilion
วันที่ไปโชคดีมาก เพราะเราไปถึงไชนีสพาวิลเลียนในจังหวะเดียวกับที่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษ
เริ่มพานักท่องเที่ยวเดินชมพอดี๊ รีบกระโดดเกาะท้าย ยูจ๋า…ขอไอ(ค่อกๆ แค่กๆ)ตามไปด้วยคนนะจ๊ะ
ทำให้ทราบว่าตำนักจีนแห่งนี้ ถูกสร้างและวาดภาพศิลปะแบบจีนแท้ๆ ทั้งหลัง
ด้วยฝีมือของจิตกรที่ “ขะเจ้าไม่เคยรู้ ไม่เคยดู ไม่เคยเห็น ไม่เคยเป็น
และไม่เคยไปเยือนประเทศจีนมาก่อนเลยในชีวิต!!”
อ่าว…แล้วท่านรู้ได้ไงว่าศิลปะแบบจีนมันควรเป็นแบบไหน?
คำตอบก็คือ…จิตนาการเกี่ยวกับศิลปะแบบจีน ถูกต่อยอดจากข้าวของเครื่องใช้ หม้อไหจานชาม
ที่จีนส่งมาเป็นของกำนัลแก่ราชวงศ์สวีเดนนั่นเอง โห…แปลว่าศิลปินสมัยก่อนนี่มโนแลนด์มาก
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเก่ง เพราะเข้าไปนี่ได้ความรู้สึกของการเดินเข้าพระราชวังฤดูร้อนของจีนจริงๆ
ห้องชั้นล่างมีสีแตกต่างกันออกไป ทีเด็ดอยู่ที่ห้องแสดงคอนเสิร์ตชั้นบน
ซึ่งเพดานมีลักษณะโค้งทำหน้าที่คล้ายลำโพงตามธรรมชาติ รวมถึงห้องนอนที่ตอนนี้ปิดม่านสลัวมิดชิด
ด้วยกลัวว่าแสงแดดจะทำลายความงดงามของภาพวาดบนผนังที่วาดไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน
จะเข้าไปทีต้องเปิดไฟฉายส่อง
เนื่องจากเป็นห้องของราชวงศ์ จึงมีห้องน้ำและโถส้วมแบบเก่าด้วย
หน้าตาละม้ายคล้ายชักโครกสมัยเรา เพียงแค่ไม่มีถังเก็บน้ำและจุดเชื่อมต่อไปยังท่อระบาย
(เพราะสมัยก่อนยังไม่มีระบบแบบนั้น)
ดังนั้นเมื่อเหล่าราชวงศ์ทั้งหลายทำธุระเสร็จแล้ว ….ก็ยังอยู่ในโถนั้น
หวังว่าชาติก่อนฉันจะไม่ใช่สาวใช้ในวัง T^T เพราะจะต้องขนโถนั้นไปทิ้งที่ไหนสักแห่ง ฮือออ..
พวกเราปิดท้ายวันอากาศดีที่ดรอตติงโฮล์ม ด้วยการนั่งกินของว่างระหว่างรอเรือกลับ
พีแคนชีสเค้กและเซเลอร์โทสต์ อร่อยขึ้นอีกหลายเท่า
เมื่อได้ทานใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ริมทะเลสาป ท่ามกลางสายลมพัดเอื่อย
มีเพื่อนเป็นนกพิราบที่บินโฉบลงมาจิกอาหารเหลือบนโต๊ะใกล้เคียง




เวลาเข้าชมพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม
พฤษภาคม – สิงหาคม
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 16.30 น.
กันยายน
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 15.30 น.
ตุลาคม
เปิด ศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 15.30 น.
พฤศจิกายน – มีนาคม
เปิด เสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.30 น.
เมษายน
เปิด ศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 15.30 น.
ธันวาคม วันที่ 17 – 30 ปิด
ค่าเข้าชม
Drottningholm Palace
ผู้ใหญ่ SEK 100
นักเรียน/เด็ก SEK 50
The Chinese Pavilion
ผู้ใหญ่ SEK 80
นักเรียน/เด็ก SEK 40
Drottningholms Slottsteater
ผู้ใหญ่ SEK 90
นักเรียน/เด็ก SEK 70
ตั๋วรวม Drottningholm Palace + The Chinese Pavilion + Drottingholm Slottsteater
ผู้ใหญ่ SEK 215
นักเรียน/เด็ก SEK 75
ขอแนะนำให้ซื้อ Stockholm Card ซึ่งเป็นบัตรเหมารายวัน สามารถใช้ขึ้นรถไฟ รถเมล์ เข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
และใช้เป็นส่วนลดค่าเรือได้ด้วย ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนวัน ยิ่งซื้อแบบเหมาหลายวันราคาก็จะยิ่งถูก
ตั๋วนี้สามารถหาซื้อได้ที่ Information Counter ที่สนามบิน
หรือจะจองทางเว็บไซต์ก่อนไปก็ได้เช่นกัน (www.visitstockholm.com)
เวลาเรือจากสตอกโฮล์ม – ดรอตติงโฮล์ม
(เวลากลับ ดรอตติงโฮล์ม – สตอกโฮล์ม เช็คได้จากท่าเรือดรอตติงโฮล์ม)
จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.15 – 15.00 น.
เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น.