เที่ยวโกเบ ตอน 1 คลิกที่นี่
มาเที่ยวโกเบกันต่อ : )
หมู่บ้านฝรั่ง Ijinkan Kitano
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวประจำเมืองโกเบที่ใครๆ ก็มา
เราว่าเพราะมีสถาปัตยกรรมจากยุคเก่าให้ดูหลายแบบ ซึ่งสวยไปคนละแบบกันตามแต่คนชอบ
ออกจากร้าน Misono เราเลี้ยวขวาไปทางศาลเจ้า เดินเข้าไปแล้วทะลุออกด้านหลัง
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจออาคารสไตล์ทิวดอร์ซึ่งเป็นคาเฟ่คั่วบดกาแฟเอง …
ใจอ่ะเข้าไปนั่งในร้านแล้วนะ แต่พุงอ่ะ บอกบ๋ายบาย (เพิ่งออกมาจากร้านเทปันยากิไม่ถึง 10 นาที)
เราเลยเดินผ่านตามทางซึ่งค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นทีละน้อย แถวนี้มีร้านเก๋ๆ อยู่พอสมควร
ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร เดินได้ไม่นานก็จะถึงย่านหมู่บ้าน
ซึ่งแนะนำให้หยิบแผนที่จาก Tourist Info center หรือจากโรงแรมติดมือมาด้วย จะทำให้เดินง่ายมาก
แต่ก่อนแถวนี้คือย่านของท่านทูต และพ่อค้าชาวฝรั่งจริงๆ เนื่องจากโกเบเป็นหนี่งในเมืองท่าเก่าแก่ของญี่ปุ่น
แต่ละหลังก็สร้างได้อลังการตามสไตล์ตัวเอง แต่ปัจจุบันไม่มีใครอยู่อาศัย บ้านจึงถูกนำมาบุรณะใหม่ให้สวยงาม
ส่วนใหญ่เปิดเป็นมิวเซียมคิดสตางค์ค่าเข้า นอกนั้นแล้วมีร้านของฝาก 2-3 ร้าน
พวกเราเดินเล่นดูบ้านฝรั่งหลังนั้นนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่เสียค่าเข้า บ้านแต่ละหลัง
ตั้งกระจายกันออกไปในย่านเล็กๆ บนเนินเขา เตี้ยๆ ท่ามกลางบ้านคนทั่วไป
ดังนั้นเวลาเดินจะต้องรักษาความสงบและเคารพความเป็นส่วนตัว…
แต่สุดท้ายก็พลาดท่าให้กับบ้าน Uroko-no-ie จนได้ แถมหลังนี้ค่าเข้าแพงสุดเลยคือ 1000 เยน T^T
ตัวบ้านน่ารักจนอดใจไม่อยู่จริงๆ แต่คิดว่าคุ้มนะเพราะด้านหนึ่งจัดเป็นอาร์ตแกลลอรี่เล็กๆ 3 ชั้น
และอีกด้านเป็นตัวบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้บางส่วนจัดแสดงด้วย
ด้านล่างมีมิวเซียมช็อปเล็กๆ ขายพวกโปสการ์ดและของที่ระลึกประจำย่าน …



















ท่าเรือ
บริเวณท่าเรือคือสถานที่ตั้งของ Maritime Museum (เราไปไม่ทัน ปิดแล้ว)
มีเรือหน้าตาคล้ายเรือดำน้ำในโดเรมอนจอดเป็นอนุสรณ์บนบก มีเรือเดินสมุทรลำมหึมาลอยลำอยู่ตรงหน้า …
เรากดน้ำแซบจากตู้มานั่งจิบ มองวิวทะเล ลมหวัดหวือวิ้วผมปลิวหัวฟู
อากาศตอนเย็นที่อาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าสร้างบรรยากาศอย่างหนึ่งขึ้นมา
เราชอบเรียกมันว่า โรแมนติก (กริ้ววว แอบเขินตัวเองวุ้ย)
พวกเรานั่งพักขาจิบน้ำกันไปอยู่เป็นนาน ก่อนคุณบุจะหยิบแผ่นพับที่เที่ยวขึ้นมา
แล้วบอกว่าแถวนี้มีอันปังแมนมิวเซียมด้วยนะ จะไปไหม…รีบยกมือ ไปๆๆๆๆๆ (ยกไปด้วย กระโดดด้วย กลัวไม่เห็น)
MOSAIC
ด้วยความที่โกเบคือเมืองแรกของทริป (จากทั้งหมด 6) เราเลยพยายามสะกดจิตตัวเองไม่ให้ซื้อของ
เพราะไม่อยากแบกมันไปตลอดการเดินทาง แต่ Mosaic (ห้างเล็กๆ) ช่างเย้ายวนจนอดใจไม่ไหว
ในนั้นคนหัวใจเด็กจะต้องพลีชีพ! มีทั้งร้าน snoopy, rilakkuma ร้าน zakka ร้านคิวพี
และอื่นๆ อีกมากมายที่ถ้ามีเวลาคงได้เสียสตางค์กันไปมากกว่านี้



อันปังแมนมิวเซียม (JR Kobe)
กว่าจะเดินถึงอันปังแมนมิวเซียม
ตัวมิวเซียมก็ปิด เหลือแต่ร้านรวงและการแสดงที่กำลังจะเริ่มต้น เลยซื้อน้ำชาอันปังฯ
มานั่งดูร่วมกับเด็กๆ แถวที่เปิดการแสดง มีร้านอาหาร ขนม น้ำผลไม้
ที่ทุกอย่างทำเป็นรูปอันปังแมนหมดเลย ดูเพลินมาก
เขามีเบเกอรี่อันปังด้วยนะ อย่าลืมแวะไปเลือกขนมปังกินสักชิ้น
เพราะเค้าจำลองสถานที่ให้เหมือนร้านขนมปังในเรื่อง!
หน้าตาของขนมปังที่ขายมาจากคาแรคเตอร์ของอันปังฯ โดยให้ไส้ต่างกันไม่มีซ้ำ
รสชาติใช้ได้ เนื้อแป้งนุ่ม ไส้ไม่หวานจัด เราว่าอร่อยกว่าเบเกอรี่บางเจ้าด้วยซ้ำ
วิธีซื้อก็แค่จำรหัสของแต่ละชิ้น แล้วนำไปบอกที่เคาน์เตอร์ จ่ายสตางค์แล้วรับขนมปังได้เลย …
ส่วนร้านของที่ระลึกเค้าใหญ่มากกกกก (ไม่กล้าเดินเข้าเลย)


หุ่น Tetsujin 28
(ลงสถานี Shinnogata)
หุ่นเหล็กพิทักษ์โลกจากยุคก่อนโดเรมอน ดังนั้นถ้าใครชอบก็พอบอกวัยได้ลางๆ (อ้าวววว)
อาจจะเพราะช่วงนี้เป็นหน้าโลว์ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ เลยไม่มีใครมาถ่ายรูปกับเจ้าหุ่นเลยยกเว้นเรา
บอกตรงๆ ว่าแปลกใจ แต่ก็น่าดีใจ เรานั่งดูเจ้าหุ่นสักพักก็ไปเดินเล่นในห้างฯ Tokyu ที่อยู่ติดกัน
ในนั้นมีร้าน Lifestyle Shop ที่ขายของน่ารักจำนวนมาก (สะกดจิตตัวเองอีกครั้งแรงๆ)

ซู้ดดดด ราเม็งอุ่นๆ ร้าน Masaya
มื้อเย็นของวันที่เพิ่งกินเนื้อโกเบมา ถึงกับขอคุณบูว่า
ขอกินอะไรก็ได้ที่เป็นน้ำซุปร้อนๆ ใสๆ ไม่ทอด ไม่มันนะ
แล้วคุณบูก็พามาราเม็งร้านนี้ค่ะ สาขาเค้ามีอยู่ทั่วไป แต่ละที่อาจจะมีเมนูแตกต่างกันออกไปบ้าง
ที่นี่ไม่ได้สั่งจากตู้นะคะ ใช้พนักงานรับออเดอร์ สัญลักษณ์ร้านคือสามเหลี่ยมที่มีวงกลมกงล้ออยู่ด้านใน
บอกเลยว่าชอบมาก คือราเม็งรสมาตรฐานที่ตัดเลี่ยนมันเนื้อโกเบอยู่หมัด
ซดซุปจนหมดชามแบบไม่เกรงใจ เป็นอีกหนึ่งเมนูง่ายๆ (สองคน 1600 เยน)


ร้านยากิโทริราคาเดียว
เป็นมื้อแรกของเราที่โกเบ มาถึงก็ปาเข้าไป 3 ทุ่ม เลยกินยากิโทริเพราะมันเปิดดึกสุด
ร้านนี้สุดจ้อดตรงที่ทุกอย่าง 280 เยน!! ทั้งอาหารและเครื่องดื่มราคาเท่ากันหมด
(ส่วนใหญ่ที่นึงมา 2 ไม้ในราคา 280 เยน) เมนูมีให้เลือกพอสมควร ไม่มากไม่น้อย
คุณภาพสมราคา รสชาติอร่อยเกินราคา โดยเฉพาะยากิโทริ (ไก่ย่างสลับกับลีก)
ต้องสั่งนะ มันมาแบบเกรียมๆ เลย สุดจ้อดดด! สั่งของย่างแล้วอย่าลืมสั่งกะหล่ำปลีมากินแกล้ม
เค้าราดน้ำส้มยูซุลงไปด้วย (คิดว่า) ทำให้รสกะหล่ำปลีออกเปรี้ยวนิดๆ
อร่อยตัดเค็มเนื้อย่างได้ สิ่งนึงที่ไม่เคยลองที่อื่นก็คือ มะเขือเทศจิ้มมายองเนส
(เค้ามีรูปคนในสวนมะเขือเทศให้ดูด้วยนะ) เหมือนจะแปลกแต่รสมันก็ไปด้วยกันได้อยู่
ของฝากจากโกเบ
แน่นอนว่า ของสุดฮิตคือ Kobe Pudding หรือคัสตาร์ดที่มีซองใส่คาราเมลมาให้ราดด้วย
ส่วนตัวคิดว่าอร่อยดี แต่แอบแปลกใจว่า ทำไมอายุมันยืนจัง คืออยู่ได้ราวครึ่งปีแน่ะ
ทั้งๆ ที่เป็นไข่กะของเหลว … แต่พอคิดอีกที ก็อย่าไปคิดเลยเหอะ…คิดมากคงไม่ได้กินไรเลย
3 thoughts