Cameron Highlands Resort

Image

Cameron Highlands เป็นที่ราบสูงของมาเลฯ ค่ะ
อากาศของที่นี่เย็นสบายตลอดปี ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์
ทำให้คาเมรอนเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ โดยเฉพาะดอกไม้
สตรอเบอร์รี่ พืชผักต่างๆ และไร่ชา ของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ BOH (เรียกว่าโบห์) และ Bharat
หรือที่เรียกกันในต่างประเทศว่า Highland Tea ค่ะ

ทริปนี้ได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนสาว ที่ไปมาตอนปีใหม่
ซึ่งอากาศตอนปีใหม่จะมีหมอกจัด หนาวจัด
แต่เราไปตอนเดือน กพ. อากาศยังเย็นสบายดี แต่ไม่มีหมอกในตอนเช้า

Image
จุดเด่นของ Cameron…
– มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกกว่า 11 เส้นทาง ทั้งแบบง่าย และยาก
– ที่นี่เป็นเมืองที่มีคนเห็น Jim Thompson เป็นครั้งสุดท้าย
จึงมีเทรลชมบ้านพักบนเขาของเขา ที่ชื่อว่า Moonlight Bungalow ด้วย
– ที่นี่มี Mossy Forest หรือป่ามอส เกือบทุกเส้นทางเดินป่า เพราะอากาศชื้นจัดนั่นเอง
ป่ามอสจะมีความสวยงาม แปลกตากว่าป่าที่เราเคยเห็นที่อื่นๆ และมีกล้วยไม้ป่าแยะ
ที่สำคัญป่ายังคงความสมบูรณ์ ต้นไม้ใหญ่ๆ มีให้เห็นอยู่มาก
– มีไร่ชาที่วิวสวยงาม มี Tea Room ที่เราสามารถสั่งชาแกล้มขนม จิบไป ชมวิวสวยๆ ไป
– มีไร่สตรอร์เบอร์รี่ สวนผัก ฟาร์มผีเสื้อ มิวเซียมขนาดเล็ก ให้แวะชม
– มีบ้านพักสไตล์ทิวดอร์ สวยแปลกตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้านในคาเมรอน

Image

การเดินทาง
จาก Kuala Lumpur สามารถนั่งรถทัวร์มาที่่นี่ได้ ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.
ทิวทัศน์สองข้างทาง ตอนรถค่อยๆ ไต่ขึ้นคาเมรอน สวยงามมาก
เพราะเป็นป่าเก่าแก่ ต้นไม้ใหญ่ และโค้งก็แยะมากไม่แพ้กัน
ใครเมารถง่าย ก็ให้เตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมยาไว้ให้ดี

Image

ที่พัก
เราพักกันที่ Cameron Highlands Resort ค่ะ จองผ่าน Agoda พร้อมอาหารเช้า ซึ่งจะรีวิวในบล็อกนี้
มีที่พักอื่นๆ น่าสนใจเช่นกัน ลองดูตามนี้นะคะ

Ye Old Smokehouse เป็นบ้านพักเก่าแก่ สวยงาม เปิดบริการมานานมากๆ หาได้ใน Agoda

Jim Thompson Cottage แบ่งบ้านของคุณจิม ให้เช่าเป็นห้องๆ ไป เริ่มต้น RM130 ติดต่อ jtcottage_ch@hotmail.com

Bala’s Chalet หาได้จาก Agoda เช่นกันค่ะ ตอนแรกตัดสินใจอยุ่นานว่าจะจองอันนี้ดีไหม แต่สุดท้ายก็เลือก Cameron Highlands Resort

Image

Cameron Highlands Resort
บริการ
เป็นสิ่งที่ทำให้เราประทับใจที่สุด เพราะพนักงานทุกคนยิ้มแย้ม ทักทาย เป็นมิตร
ระดับ 5 ดาวบวกๆๆ ยังคุยกันอยู่เลยว่าที่นี่เก่งมาก เทรนพนักงานทุกคนให้เรารู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองได้ขนาดนี้
แถมยังช่วยเหลือเรื่องอื่นๆ อย่างเต็มที่ เอาใจไปเลย

ด้วยความที่เรานั่งรถบัสจากสิงคโปร์ไปตอน 4 ทุ่มครึ่ง
ถึงที่นั่นตอน 7 โมงเช้า (หากคนนั่งรถไปลงที่ Brinchang สามารถเดินลงเนิน
ระยะทาง 1 กม. ยังไม่ทันเหนื่อย ก็จะถึงโรงแรม)
แน่ล่ะ…เราเช็คอินไม่ได้เพราะเช้าเกินไป เลยกะจะไปแคะขี้ตาในห้องน้ำ
แล้วกินอาหารเช้ามันที่รีสอร์ตนี่แหละ เพราะขี้เกียจเดินขึ้นเนินไปที่ Brinchang
แม้ค่าอาหารเช้าจะมาตรฐาน รร. 5 ดาว คือ RM 70++ ก็ตาม – -” (เกือบพัน/คน)
ปรากฎว่าตอนเช็คเอาท์ เค้าไม่คิดค่าอาหารเช้ามื้อนั้นค่าาาาา…ใจดีจังเลยยย : ))))

ที่สำคัญคือเค้าไม่คิดจะให้เรานั่งกร่อยรอ ที่ล็อบบี้ รร. นะคะ
เพราะจะมีคอมพลิเมนทารี่เป็น Jim Thompson Trail ตอน 10 โมงให้ฟรีด้วย
ระหว่างรอให้ถึงเวลา มีการเอาน้ำและสแน็คมาให้เราทาน
บอกเลยว่าได้ใจไปตั้งแต่เช้าแรกที่ถึงเลยค่ะ

Breakfast
อาหารเช้าที่นี่มีเมนูให้เลือกไม่มากนัก และไม่มีอะไรพิเศษพิสดาร
เราลองสั่งมาทานเกือบทุกเมนู แต่ที่ติดใจที่สุดคือ bread basket ซะงั้น
เพราะครัวซองต์อร่อย แม้เนยจะใช้แองเคอร์ธรรมดา แต่แยมเป็นโฮมเมดแน่
เพราะแถวนี้สตรอร์เบอรี่แยะ รสจึงหอม ไม่หวานจัด
น้ำผลไม้เราเลือกสั่งน้ำส้ม รสชาติดี ติดเปรี้ยวนิดๆ แต่อร่อย
โดยรวมถือว่าอาหารเช้าใช้ได้ มีโยเกิร์ต ผลไม้สด และซีเรียลทั้งหลายให้เราเลือกตักเอง
ที่สำคัญคือถ้าไม่อิ่ม สามารถสั่งเพิ่มได้


Image
Break Basket ที่เรารอคอยยยยย
เค้กกล้วยหอม จะเปลี่ยนเป็นเค้กอย่างอื่นบ้าง แต่ก็โอเค

Image
sunny side up เสิร์ฟพร้อมแฮชบราวน์ (อร่อย) /  แฮมเนื้อ (ที่นี่นับถืออิสลาม)
ไส้กรอกไก่ และเห็ดผัดแสนอร่อย เอ๋สั่ง 2 วันเลย

Image
buttermilk แพนเค้ก เสิร์พร้อมสับปะรดชุบแป้งทอดกรอบ แอปเปิลคอมโพต ถั่วสมองเคลือบน้ำตาล อร่อยๆ

Image
Poached Eggs ของเอ๋ ไข่ค่อนไปทางสุก และซอสฮอลันเดสติดเปรี้ยว
ที่นี่ชอบทำอาหารรสเปรี้ยว เข้าใจว่าเป็นรสของเค้า

Image

วาฟเฟิลก็อรอ่ยมาตรฐานค่ะ จานนี้ของคุณบู

สถานที่
ตัวรีสอร์ตตกแต่งแบบคลาสสิก มีประมาณ 50 กว่าห้อง
ดังนั้นขนาดจึงไม่ใหญ่มาก แต่มีทุกสิ่งครบครัน คือล็อบบี้ที่จะมีคุณลุงมาเล่นเปียโนสดๆ ให้ฟังทุกคืน
ล็อบบี้นี่คือที่ฮอตฮิตสำหรับแขกทุกคน มีเก้าอี้หวายตัวใหญ่นั่งสบายได้นานแสนนาน
หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงสว่างตลอดทั้งวัน ที่สำคัญมีโต๊ะพูล และบาร์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เดินไปสั่งได้เสมอ นอกจากนั้นก็มีห้องอาหาร 2 ห้อง Jim Thompson Shop, Jim Thompson Tea Room
Library ห้องสมุดขนาดเล็ก ที่มีโซฟาหนังสีขรึมเข้ากับโทนห้อง เราไม่ค่อยได้นั่งที่นี่
แต่ชอบตรงความคลาสสิก

ตอนจองเหลือแต่ห้อง Junior Suite ซึ่งเป็นห้องคอนเน็ค
มีเตียง single เพิ่มมาอีก 2 เตียงในห้องเชื่อม ซึ่งเราไม่ได้ใช้งานอะไร เลยปิดห้องไว้เฉยๆ
เตียงนุ่ม ผ้าห่มอุ่น นอนสบาย ไม่มีแอร์ เพราะอากาศเย็นอยู่แล้ว
มีมินิบาร์ ชา BOH และเนสกาแฟแบบผงให้ พร้อมฟรุตบาสเกต
ห้องน้ำแรงสะใจดี วันแรกที่ไปมีอุปกรณ์ของ Crabtree & Evelyn ให้ใช้
ทั้งแชมพู สบู่เหลว และโลชั่น แต่วันถัดมา เค้าเปลี่ยนทุกอย่างเป็นของ Mangosteen
เลยไม่มีโลชั่นให้อีกต่อไป เราก็ดันลืมเอาโลชั่นไปด้วย ทำไมต้องเปลี่ยนวันนี้หนอออ… T^T

Imageมุมหนึ่งของ Library


Image

มุมหนึ่งของ Library

Image
มุมหนึ่งของ Library

Image

ล็อบบี้

Image
ล็อบบี้

Image
Jim Thompson Shop

Image
Bar

Image

ห้องพัก

Image

ห้องพัก

Image
ห้องพัก ทุกห้องจะมีระเบียงให้ ทั้งห้องชั้นบนและล่าง

Image

ห้องน้ำ

Image

Image

ผลไม้ต้อนรับ

อาหารเย็น ที่ห้องอาหาร Gonbei
ที่นี่จะเสิร์ฟเฉพาะ Steam boat ซึ่งลักษณะคล้ายสุกี้บ้านเรา
เปิด 18.00 น. ถึงดึก อยู่บนชั้น 2 ของ Jim Thompson Shop
ลองนึกภาพนะคะว่า อากาศหนาวๆ เย็นๆ การได้กินซุปร้อนๆ ผักนุ่มๆ มันคือความสุขขั้นเทพจริงๆ
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะพบว่าห้องอาหารนี้คนมากินกันตรึม ฝรั่งบางคนก็ทานไม่เป็น
พนักงานจะสอนให้ แต่เราคนไทยผู้คุ้นเคย ก็จะลุกไปคีบผักจากบาร์ที่เขาเตรียมให้
มารอน้ำซุปร้อนๆ และเนื้อที่สั่งไว้ ที่นี่จะแบ่งเป็นเซ็ตเนื้อ / ผสม / ทะเล
ทานกันสองคน รวมภาษีและเซอร์วิสแล้วประมาณ RM200

บังเอิญวันไป เป็นช่วงหลังเทศกาลปีใหม่จีน ที่นี่ก็เลยมี Yusen
หรืออาหารมงคล มาให้เราทานเป็นของทานเล่นก่อนด้วย
ทางสิงคโปร์เองก็มีวัฒนธรรมนี้เช่นกัน ส่วนผสมในนั้นก็คือน้ำมันและน้ำเชื่อมหวานหนึบ
คู่กับผักหั่นฝอย และแป้งกรอบ เมื่อเทน้ำเชื่อมเรียบร้อย เราก็จะใช้ตะเกียบ
คลุกเคล้าผักและแป้งให้เข้ากัน ระหว่างนั้นก็จะพูดสิ่งมงคล เหมือนการขอพรไปด้วย
เพื่อเป็นศิริมงคลค่ะ

ที่สำคัญ วันที่ทานคือวาเลนไทน์ พนักงานก็น่ารักน่าหยิกมาก
รอจังหวะเอ๋ลุกไปตักผัก รีบเอาดอกกุหลาบมาให้คุณบูซ่อนไว้
พอกลับมานั่งก็หยิบขึ้นมาให้ เล่นเอาเขินอายกันทั้งคู่
เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจ ที่เขาคิดครอบคลุมมาให้ด้วย

Image
Yusen เวอร์ชั่นมาเลฯ จะเป็นแบบนี้ค่ะ
เอ๋เคยกินยูเซ็นที่สิงคโปร์ จะมีผักแยะกว่านี้มาก และมีเนื้อปลา(แซลมอน)ด้วย
ที่เหมือนกันคือเค้ามักใส่จานสีขาวน้ำเงินแบบนี้ค่ะ

Image
บรรยากาศด้านใน

Image

ผักใบเขียวหลากหลาย

Image

เห็ดสารพัดชนิด ที่จะสดเป็นพิเศษ เพราะมีฟาร์มเห็ดหลายแห่งในคาเมรอน
แต่ไม่มีเห็ดฟาง T^T

Image

น้ำจิ้มสารพัด

Image
แน่นอนว่า ต้องมีสตรอเบอร์รี่ล้างปาก

Image
ทานละนะค้าาาาาาาา : D

อาหารเย็นที่ห้องอาหาร Dining Room (ห้องเดียวกับอาหารเช้า)
ห้องนี้เสิร์ฟอาหารตะวันตก มีเมนูให้เลือกไม่มาก แต่ก็ครบเกือบทุกเนื้อ (ยกเว้นหมู)
ทั้งพาสต้า สเต็ก สลัด ซุป เราเลือก Lobster Bisque ซึ่งกำลังดีไม่เข้นข้นเกินไป
ส่วนซุปมะเขือเทศจะติดไปทางเปรี้ยวนิดๆ
ส่วนเมน สั่ง Black Angus Beef Rib หนัก 600 กรัมมาแบ่งกันทาน
พนักงานจะเข็นรถมาแล่เนื้อให้ดูถึงโต๊ะ พร้อมผักอบในหม้อ
ทานกับ Horse Raddish และซอสวาซาบิ มันเข้ากันจริงๆ อิ่มพุงตึงมาก
ปิดท้ายด้วยของหวานคือ คาลัว คาราเมล ทีรามิสุ  รวมๆ แล้วประมาณ RM 400

Image
ซุปมะเขือเทศมีพัฟฟ์เพสตรี้แปะมาด้วย

Image
Lobster Bisque ของคุณบู

Image

เนื้อ medium rare เลือดสาด แฮร่…

Jim Thompson Tea Room
อันที่จริงก็คือล็อบบี้ที่เรานั่งประจำนั่นแหละค่ะ ปกติเราสั่งอาหารกลางวันทานที่นี่ได้เลย
อิ่มอาหารแล้ว จะนั่งรอเวลา Afternoon tea บ่าย 3 – 6 โมงเย็นก็ได้
ขอสารภาพว่า ปกติเราไม่เคยทานของในเซ็ต afternoon tea หมดเลยสักครั้ง
คราวนี้มีการวางแผนค่ะ คือสั่งอาหารกลางวันมาแค่สำหรับคนเดียว
และขอแนะนำสำหรับคนทานเนื้อคือ Pot Roast ค่ะ มันอร่อยมากกกกก
ทานกับซุปหัวหอมฝรั่งเศส แล้วก็จะฟินสุดๆ

Afternoon Tea เซ็ตของที่นี่ไม่โหดร้ายเหมือนที่คิด คือประมาณ RM 100/ 2 คน
มีแซนวิชแตงกวา ทูน่า มะเขือเทศ มาครบ ขาดไม่ได้คือสโคนส์ ที่เราทั้งคู่ลงความเห็นว่าอร่อยมาก!
ยิ่งชอบแยมของที่นี่อยู่แล้ว เลยได้ใจไปเลย อาจจะเพราะอากาศเย็น ทำให้ทำสโคนส์อรอ่ย
เพราะการทำสโคนส์ เราจะต้องบี้เนยเย็นๆ เข้ากับแป้ง และจะต้องไม่ให้เนยละลายคามือ
ที่พิเศษคือมี สตรอว์เบอร์รี่จิ้มช็อคโกแลตซอสมาให้ด้วย
มาการองเข้าขั้นไม่ค่อยดี ขนมหวานชั้นบนสุดเอ๋ว่าไม่เข้าทางสักเท่าไร
แต่นอกนั้นใช้ได้หมดค่ะ Selection ของชาก็คือยี่ห้อ BOH (แน่นอนอยู่แล้ว)
เอ๋สั่งวานิลลา ส่วนคุณบูเธอสั่งชาพื้นบ้านของที่นี่ น้ำร้อนหมดก็โบกพนักงานให้เติมได้ตลอดนะคะ

Image

French Onion Soup

Image

Pot Roast … จะต้องกลับมาทำกินเองให้ได้ อร่อยมาก

Image

Afternoon Tea Set

Image

Image
เริ่มจากแซนวิชก่อนเลย ขนมปังก็นุ่มดีนะคะ มีแบบขาวและโฮลวีต

Image

ตามด้วยสโคนส์ลูกเกด

Image
โดยมีพนักงานปาดครีมและแยม ติดตัวไปจากสิงคโปร์ด้วยค่ะ ฮิๆ

Image
ช็อคโกแลตซอส กับสตรอว์เบอรี่

Image

เป็นบ่ายที่เราสองคนนั่งอืดกินกลางวัน ต่อด้วย Afternoon Tea
อ่านหนังสือ สลับกับเขียนโปสการ์ด สลับกับการขบงับหัวกันเป็นระยะ
บรรยากาศที่ล็อบบี้ก็ดี๊ดี อากาศเย็นธรรมชาติ… สุดยอดแห่งความแฮปปี้
ใครมาขอให้เผื่อเวลามานั่งเฉื่อยกันที่นี่นะคะ

บล็อกหน้าจะพูดถึงกิจกรรมใน Cameron Highlands นะคะ : )

Image

One thought

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s