ถ้าไม่จำเป็น คงไม่มีใครออกมาเที่ยววันนี้ (ปลายเดือนกพ. อากาศยังหนาว ฝนตก และ…)
ลมแรงโคตร…
ฟ้าครึ้มแต่เช้า ถ้าเราเป็นโลคัล คงซุกแด้ทำกับข้าวกินบ้าน
แต่นี่มาเที่ยวเนาะ ก็ต้องหาทางเซาะซอนไป อยู่เฝ้าโรงแรมมันน่าเบื่อกว่าการออกไปตากฝนแยะ
แต่ด้วยความที่ ถ้าอยู่บรัสเซลส์ต่อ ก็ไม่ค่อยจะมีที่ไป เลยตัดสินใจซื้อตั๋วไปเมือง Antwerp ซึ่งใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที ที่สำคัญคือซื้อตั๋วในวันหยุดได้ลดราคา แค่คนละ 8 ยูโรไปกลับ! (ไป Brugg ปาเข้าไปคนละ 24 ยูโร) เราก็เพิ่งมารู้ตอนซื้อตั๋วกันนี่แหละ ดีใจจัง ดังนั้นใครแพลนทริปจะไปต่างเมืองเสาร์อาทิตย์จะถูกนะ จดไว้ๆ
แถมคนน้อยด้วย….
ได้จับจองที่นั่งครอบครัว เปิดขนม อ่านหนังสือกันสบายๆ แป๊บเดียวถึงแล้ว
สถานีรถไฟ Antwerp นี่สวยมาก เป็นแลนด์มาร์กอย่างนึงได้เลย พอออกจากสถานีจะไปรอบัสนี่ดิ ..ลมโคตรแรง แทบจะพัดตัวปลิวได้เลยอะ รีบเอาพลาสติกคลุมรถหมี รอบัสไม่ถึงสิบนาทีก็มา ค่าบัสคนละ 3 ยูโรเพราะจ่ายบนรถ แต่ถ้าซื้อจาก newsagent จะเหลือ 2 ยูโร (ทว่าในสถานีไม่มี ก็ต้องจ่ายไป)
เป้าหมายแรก MAS Museum เป็นซิตี้มิวเซียม คือรวมหลายๆ สิ่งไว้ในที่เดียวเนื่องจากเมืองไม่ใหญ่ มีมิวเซียมหลายที่ดูจะกระจัดกระจายไป (มั้ง) มารวมๆ กันตรงตึกทรงเก๋ๆ แพรคทิคัลแบบนี้ดีกว่าเยอะ เพราะ แก้วใสๆ ทำให้ด้านในเหมือนอยู่ด้านนอก (จนหมีงง) แต่ยังออบุ่นได้แม้ในหน้าหนาวและวันที่ลมแรงเยี่ยงนี้
มิวเซียมไม่ได้มี play area ให้เด็กโดยเฉพาะ เดินๆ ปนๆ กันไปนั่นแหละ (แต่มี buggy tour ด้วยนะ ไม่ได้ดูรายละเอียดเหมือนกัน) แต่ด้วยความกว้างใหญ่ของมัน หมีก็เดินและวิ่งได้สนุก จุดไหนมีเพลงสนุกๆ นางก็เต้นบ้าง จะปีนเก้าอี้ ปีนข้ามเชือกไปบ้าง เราก็ต้องคอยไปห้ามไปเบรกนางอย่างเร่งด่วน แต่โดยรวมนางอยู่ได้ไม่เบื่อชั่วโมงกว่าๆ นะ (สนุกกับการได้ขึ้นบันไดเลื่อนอีกอย่างนึงด้วย)
เดินมิวเซียมเสร็จ ออกไปกินอาหารกลางวันร้านด้านหน้ามิวเซียม ฝ่าลมไป โหยยยย ตัวเกือบปลิวจริงๆ นะ อาหารร้านนี้เฉยๆ ฟรายส์มีเหี่ยวนิดนึงผิดฟรายส์สัญชาติเบลเยี่ยมมาก บวกเราไม่เจริญอาหารด้วย แต่หมีกินไปเยอะเราก็พอใจแล้ว ชีวิตมนุษย์แม่มีแค่นี้จริงๆ
กินเสร็จฝ่าลมพาหมีไปเดินในมิวเซียมอีกแป๊บนึงเพื่อให้ได้ย่อย
อ้าว…เดินหมดแล้วเหรอ อ่ะไปมิวเซียมช้อปต่อ แหมทำไมมันเล็กจัง เดินครบก็จับหมีใส่รถเข็นคลุมผ้ากันฝน นางโวยวายไม่ยอมนอน แต่ไม่ถึง 5 นาทีก็หลับสนิทมาก และหลับยาวชม.ครึ่ง
ตัดภาพมาที่พ่อแม่ เข็นหมีกลุกกลักไปตามฟุตบาธที่ปูด้วยหินขรุขระไม่เท่ากัน ท่ามกลางลม ฝนปรอยนิดๆ และอากาศหนาว(แต่ก็ยังดีที่อุ่นกว่าเมื่อวาน) ระหว่างนั้นแวะช้อปร้านเด็ก ร้านเครื่องเขียน (ได้ของมานิดหน่อย) ร้านขนม ดูบ้านดูเมืองเค้าชิลล์แบบไม่ต้องวอรี่ลูกมาก ดังนั้นฝนตกกับลมกรรโชกแค่นี้ แกทำอะไรฉันไม่ได้ร้ออกกกกกกกก
พอไปถึงมิวเซียมเครื่องพิมพ์ หมีก็ตื่นพอดี เป็นมิวเซียมที่สวย ขลัง เก่าแก่ ควรค่า
หมียังงัวเงีย มี้ให้เรซินกินไปดูของเป็นเพื่อนด๊าไป เราจึงเดินรอบได้โดยไม่รบกวนคนที่เข้ามาดูมิวเซียม
ออกจากมิวเซียมอย่างเปรมปรีเพื่อจะพบว่า ฝนตกหนักมาก งือออ…
วิ่งไปลงรถไฟใต้ดิน นั่งไปสถานีหลัก จับรถไฟกลับบรัสเซลส์
ระหว่างทางฝนตกตลอด เราเอนเตอร์เทนหมีบนรถไฟด้วยการปอกส้มสองลูก กินคุกกี้อัลมอนด์ อ่านหนังสือ อะไรกันไป หมีไม่งอแง น่ารักมาก รู้ดีอีกต่างหากว่าต้อง “เปลี่ยนลิฟท์” “เปลี่ยนรถไฟ”
ว่าแล้วก็จบทริปเบลเยี่ยมกันแบบดื้อๆ ตรงนี้เลยค่ะ
adaytrip diary 