
มาเบลเยี่ยม ถ้าไม่แวะบรัสเซลส์ยังได้ แต่ถ้าพลาดบรู้กก์คือจบ!
Brugge เป็น UNESCO Heritage site ที่น่ารัก เดินเพลิน ช้อปสนุก บิสกิตอร่อย สายถ่ายรูปก็จะเพลินกับมุมถ่ายสวยๆ มากมายไม่รู้จบ
จากบรัสเซลส์ นั่งรถไฟออกไป Brugge ใช้เวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง จากบรัสเซลส์ไปถึงสถานีก็กดซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า รถไฟค่อนข้างว่างแม้ในวันธรรมดา จำได้คร่าวๆ ว่ามีทุก 20 นาที ราคาอยู่ที่ราว 20 กว่ายูโร/คน ถ้าเดินทางเสาร์-อาทิตย์ก็จะถูกลงมากกกก (อาจจะไม่ถึง 10 ยูโร/คน)
การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินของบรัสเซลส์นั้น บอกได้เลยว่าดีกว่าปารีสและลอนดอนมาก ไม่รู้เพราะเค้าสร้างรถไฟทีหลังรึเปล่า ถึงออกแบบให้มีลิฟท์ในทุกสถานี และส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างสะอาดสะอ้าน (ขอโทษถ้ามาตรฐานเราจะต่ำ แต่ถ้าใครผ่านการใช้บริการซับเวย์นิวยอร์กมา ก็จะเห็นว่ารถไฟประเทศอื่นสะอาดไปเสียหมด) ระบบซื้อตั๋วไม่ยาก มีทางเข้ารถเข็นอะไรให้พร้อม ไม่ต้องกดบอกเจ้าหน้าที่ให้คอยเปิดทุกครั้งเหมือนปารีส ไม่ต้องแบกรถเข็นขึ้นลงบันไดให้หลังแอ่น (ยกเว้นบางสถานีที่อาจจะไม่มี แต่น้อยมากๆ)


กิจกรรมบนรถไฟยามเช้าวันนี้ คืออ่านหนังสือและกินขนม
เมื่อวานซื้อ apple อบแห้งมาถุงนึง หมีชอบมาก นั่งกินจนหมดกระปุกเล็กๆที่แบ่งใส่ กินบลูเบอร์รี่ ขนมกรอบนิดหน่อย อ่านหนังสือนิดนึง ดูวิวหน่อยนึง ก็ถึงละ
ปกติมาเมืองนี้ ขาดไม่ได้คือการล่องเรือชมเมือง
แต่วันนี้พวกเราตื่นสาย กว่าจะมาถึงก็สายกว่า อากาศหนาว คนต่อคิวลงเรือเยอะ ก็เลยขอบัยยยย
ความเห็นส่วนตัวนะ คิดว่าแค่เดินเล่นชมเมืองก็สนุกมากแล้วอะ บ้านเรือนเก่าแก่สวยๆ เค้าเยอะ แค่เดินไปเรื่อยๆก็เหมือนได้เที่ยวแล้ว เพลินมาก ตรงไฮสตรีทมีร้านรวงอะไรน่าสนใจมากมาย พวกร้านลูกไม้เก่าแก่ แทรกด้วยร้านของดีไซน์เริดเก๋ ปะทะร้านบิสกิตและช็อคโกแลตหลายร้าน













สำหรับของฝาก…แนะนำมากๆ ร้านชื่อ Juliette พวกเราหยิบอะไรมาก็อร่อยทุกสิ่ง! ตอนแรกเดินผ่านได้กลิ่นเนยฉุยออกมา ก็ถามคุณบูว่าร้านนี้ท่าทางดีไหม (เพราะเมื่อวานผ่านร้านช็อคโกแลตเป็นสิบร้าน นางไม่สนใจร้านไหนเลย) ถ้าโอเคเราน่าจะซื้อบิสกิตคุกกี้อะไรไปฝากออฟฟิศ หรือครูที่รร.เจ้าหมีไปเลย จะได้ไม่ต้องยุ่งกะมันอีก บูโอเค (บูคือหมูทรัฟเฟิล ดมกลิ่นของอร่อยเก่ง) พวกเราก็พุ่งเข้าไปซื้อรวมๆ แล้วถุงใหญ่มากกกกกก บิสกิตแบบรวม บิสกิตแจม(อร่อยที่สุด) วาฟเฟิลแผ่น ฯลฯ หยิบแบบไม่คิดชีวิตเพราะกะไม่แวะซื้อร้านอื่นแล้ว ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามันอร่อยจริงรึเปล่า กลัวเหมือนกันว่าจะกินไม่หมด ปรากฏ….อร่อยมากกกกก อยากกลับไปซื้ออีกสิบเท่าเลยค่ะ ของเค้าอร่อยและไม่หวาน นี่แหละสำคัญ
ด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหนดีที่หมีสามารถวิ่งเล่นได้ เลยแวะ Frietmuseum หรือมิวเซียมฟรายส์ กร๊ากกก….ถ้าไม่อยากให้เจ้าหมีได้มีที่วิ่งเล่น อิฉันคงไม่แลตามอง
อย่างที่ทราบว่า เบลเยี่ยมเค้าเด่นดังช็อคโกแล็ต กะ fries ถึงขนาดว่ามีมิวเซียมสองอย่างนี้ เป็นมิวเซียมเล็กๆ นะ เรากะว่าคงไม่มีใครเข้าหรอก ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ที่อยากหาที่วิ่งให้ลูกในวันหนาวๆ แบบนี้น่ะ แต่ปรากฏคนทั่วไปเข้ามาเยอะพอสมควร เราก็พาหมีเดินไปเรื่อยๆ เค้ามีรายละเอียดเกี่ยวกับพันธุ์ต่างๆ ของมันฝรั่งบลาๆๆ แต่พอไปถึงโซนที่เค้าจัดให้เป็นเหมือนร้านขายมันฝรั่งทอด หมีพูดออกมาทันทีว่า “ซอฟท์เพลย์” (เป็นคำเรียกที่เล่นที่มีเบาะนุ่มๆ สีสันสดใสของคนอังกฤษ) แล้วก็กระโดดไปเป็นแม่ค้าขายฟรายส์อยู่พักใหญ่เลยจ้า โอเคเงินค่ามิวเซียม 7 ปอนด์คุ้มละเหวย…. ระหว่างหมีเล่น อิพ่ออิแม่ดูคลิปการทำฟรายส์สไตล์เบลเยี่ยม พบว่าเค้าจะทอดสองรอบให้กรอบนอกนุ่มใน ระหว่างดูนั้น ชั้นใต้ดินของมิวเซียมก็ขายฟรายส์ด้วยนะ กลิ่นหอมฉุยใส่จมูกตลอดเวลา แต่ด้วยความที่เรากำลังจะกินข้าวเที่ยงกันละ เลยต้องผ่าน



อาหารกลางวันกินที่ร้าน Cafe de Glide ซึ่งเราสั่ง fish casserole ที่อร่อยมากๆๆๆ บูสั่งวีลอะไรสักอย่างก็รสชาติเข้าท่า มีเก้าอี้เด็กให้นั่งด้วย กินสบายใจมาก แต่คนจะเยอะหน่อย ไม่ควรไปตอนพีค
ออกจากร้านชวนหมีวิ่งเล่นพักนึงแล้วก็ให้นางหลับในคริบ อิพ่ออิแม่ซื้อ hot chocolate ผลัดกันจิบ แวะช้อปปิ้งตามร้าน อิแม่เข้าไปในร้านเครื่องครัวนานม๊ากเป็นพิเศษจนด๊างง (เพราะของเยอะมาก ดีมากๆๆ มี้ไม่อยากออกมาเลย) ส่วนคุณด๊าแว้บเข้าไปในโบสถ์เก่าแก่หลังนึงดูเมดิวัล อิฉันก็เข็นเจ้าหมีบนถนนขรุขระวนไปมารอ (มันขรุขระทั้งเมืองแหละ เออใช่…ถนนเมืองนี้ยังปูด้วยหินแบบเก่า ขรุขระมากจ้ะ) ด๊ายังซื้อช็อคโกแลตทรัฟเฟิลจากร้าน The chocolate Line ที่อยู่ติดกับร้านขายเครื่องครัวมาลองกันด้วย แนะนำมาก! ให้เลือกรสที่ออกเปรี้ยวๆ หน่อยจะอร่อยกว่ารสเทรดิชันนัลทั่วไป ทริปนี้เราซื้อช็อคโกแลตทรัฟเฟิลมาลองสามร้าน ชอบร้านนี้ที่สุด ใครไป Brugge แนะนำนะ


















พอหมีตื่นจากแนป (วันนี้นอนยาวเป็นพิเศษเกือบ 2 ชม. แน่ะเย้!) บูวางแผนให้เราได้กินวาฟเฟิลในร้านกันสักหน่อย ไหนๆ มาเบลเยี่ยมแล้ว พวกเราไปต่อคิวร้านวาฟเฟิลชื่อ Lizzies Wafels เป็นร้านนั่งกินมีไม่ถึง 10 โต๊ะ คุณบูอ่านเจอร้านนี้จากนิตยสารแจกบนยูโรสตาร์ตอนนั่งมาบรัสเซลส์นั่นแหละ เค้าทำวาฟเฟิลสไตล์เบลเยี่ยม(เหลี่ยมๆ เนื้อเบาๆ ไม่หวาน) มีท้อปปิ้งหลากหลาย แต่ด้วยความที่เราเห็นคนก่อนหน้าสั่งช็อคโกแลตซอสกับวานิลลาไอศครีมเลยเอาตามบ้าง (จริงๆ น่าจะกินกับวิปครีมและช็อคซอสจะได้ไม่หวานเกินไป) เป็นวาฟเฟิลที่อร่อยและเบา เห็นชิ้นใหญ่ๆ แต่กินสามคนแล้วไม่จุก เจ้าหมีกินไปเยอะเหมอืนกัน และร้องขอไอติมเพิ่มด้วยนะ (ยากส์ เจ้าหมี!) คุณบูยังสั่ง Hot chocolate ที่เค้าเสิร์ฟช็อคโกแลตดอกไม้พร้อมนมอุ่นให้เรามาใส่เองด้วย ร้านนี้มีเก้าอี้เด็กให้ด้วย
ออกจากร้าน พาเจ้าหมีเดินเล่นแป๊บนึง ก่อนขึ้นรถไฟกลับบรัสเซลส์





