แซนดิเอโก้เป็นเมืองที่เหมาะกับครอบครัวมากนะ เพราะ…
1. มีมิวเซียมเยอะ
2. มีสวนสัตว์ อะแควเรี่ยม พร้อม
3. มี Lego Land ด้วย
4. อาหารก็อร่อยดี
5. ผู้คนขับรถแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่เลือดร้อนบ้าระห่ำเหมือนคนเมือง
อ่ะไปกันเลย ทริปนี้ไปตั้งแต่คริสมาสต์ปี 2018 เพิ่งจะมาเขียนตอนสปริง 2019 อะไรๆ ก็ดูจะลืมไปบ้าง หวังว่ารูปจะพอช่วยได้ (ซึ่งก็มีลูกติดมาในรูปซะส่วนใหญ่ ตามประสามนุษย์แม่ ที่ใช้ลูกเป็นมาสคอตแทนพวกตุ๊กตุ่นตุ๊กตากาชาปองต่างๆ)
บินจากนิวยอร์ก
เรานอนแซนดิเอโกแค่ 2 คืน ตั้งเป้าเช่ารถจากแซนดิเอโก ขับไปพักตามเมืองนั้นเมืองนี้ระหว่างทาง แล้วก็คืนรถที่ซานฟรานฯ สิริวมทริป 10 วัน เวลาต่างจากนิวยอร์กราวสามชั่วโมง
การเช่ารถในแซนดิเอโก
การรับรถต้องขึ้นshuttle ไปที่ตึกรถเช่าโดยเฉพาะ ซึ่งใหญ่โตมากกกกก ที่ฮาคือเราเลือกรถได้เองตามใจชอบตามขนาดรถที่จองไว้ ซึ่งเป็นอะไรที่เสียเวลามาก เพราะยิ่งมีโอกาสเลือก มนุษย์แม่ก็จะลังเลอยู่นั่น กว่าจะได้ขนของขึ้นรถ ออกตัว เฮ้อ…
อ้อ จริงๆ เราเช่า mini suv แต่เค้าบอกว่าหมดเลยให้เลือกรถเก๋งรุ่นใหญ่แทน ซึ่งก็กว้างดีนะ แต่เราชอบ SUV มากกว่า มันสูงดีขับคล่องกว่า
ด้วยความที่เวลาที่นี่ต่างจากนิวยอร์ก3 ชม. วันนี้เจ้าหมีเลยรวนนิดๆ อาการเจ็ตแลกมาละเว้ยๆ
อ้อ ใครมีลูกเล็กต้องเอาคาร์ซีทมาให้นั่งด้วยนะ ถ้าไม่มีคิดว่าเช่าจากบ.รถได้เลย แต่ที่เราเอามาเพราะยังไงก็ต้องใช้คาร์ซีทนั่งแทกซี่จากบ้านมาสนามบินอยู่ดี ขนกันเข้าไปแบบหลังเดาะเลย (ขุ่นพ่อกล่าว)
คนขับรถในแซนดิเอโก้ค่อนข้างโอเคกว่าNJ มาก ใจเย็นกว่า ยอมมากกว่าสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอะไรที่รีแลกซ์ดี
แต่อย่าลืมว่าถ้าขับบนไฮเวย์ ให้ขับไปตามกระแสรถส่วนใหญ่ อย่าช้ากว่ามากไม่งั้นจะโดนใบสั่งนะ
อาหารมื้อแรกในแซนดิเอโก ร้าน Oscar’s Mexcan Seafood
ทาโก้ คืออาหารที่มาแซนดิเอโกแล้วต้องกิน เหตุเพราะที่นี่ชายแดนติดเม็กซิโก ดังนั้นถึงจะไม่ค่อยอยากกินเท่าไรแต่ก็จะได้กิน เพราะมันมีเยอะมาก
ร้านที่เราไปอยู่ในเวิ้งตรงข้ามซูเปอร์ฯ Whole Foods เป็นร้านคล้ายๆ ฟาสต์ฟู้ดกินง่ายๆ จานชามกระดาษ ซึ่งรสชาติดีงามเหนือความคาดหมาย อร่อย แซบ เจ้าหมีร่วมแจมกินอะโวคาโด เนื้อปลาในซุป แล้วก็แผ่นแป้งตอร์ตีย่ากรอบๆ ได้อย่างลงตัว และเสื้อผ้าของนางก็เละเทะซอสเอยอะไรเลยตั้งกะตอนนี้ค่า ฮืออออ
กินเสร็จช้อปปิ้งที่ whole foods ซื้อน้ำมาตุนไว้หลังรถ หาอาหารเช้าและผลไม้ให้เจ้าหมี เบียร์ให้พ่อ เป็นซูเปอร์ที่ขึ้นชื่อว่าโอเคมากนะ แต่ถ้าจะเอาซูเปอร์เจ้าถิ่นแบบฮิปๆ คูลๆ ต้องแวะ Trader Joes เค้าจะมีของจุกจิกแบรนด์ตัวเองในแพคเกจจิ้งสวยๆ หลากหลาย เอาพวกช็อคโกแลตกล่องเล็กกล่องน้อยไปเป็นของฝากได้ เพราะอร่อยด้วย ไม่ไก่กา
Old Town
เป็นการเอาเมืองเก่าจริง มาโมฯใหม่ให้กลายเป็น tourist trap เข้าไปเดินเล่นได้ไม่เสียตัง ส่วนตัวคิดว่าสนุกดี เดินดูนั่นนี่ขำๆ ไปเรื่อย มีคนแต่งตัววินเทจตามสมัยมาเดินเล่นกินข้าวตามจุดต่างๆ สร้างบรรยากาศไปอีกแบบ ครอบครัวตัวพีก็เป็นอะไรที่แบบเดินลอยๆ เพราะแอบเจ็ตแล็กนิดๆ ความรู้สึกก้ำๆ กึ่งๆ ระหว่างง่วงหรือตื่น หิวหรืออิ่ม ก็ไฟล์ทที่มาเช้าม๊าก
ออกจากที่นี่ก็ขับรถวนๆ ให้เจ้าหมีนอน
จริงๆ นางควรจะหลับในรถเข็นตั้งแต่เดินเล่นใน Old Town ละ แต่ทำยังไงก็ไม่หลับ เข็นบนถนนขรุขระแค่ไหนก็ไม่ยอมล้ม ตาปรือๆ เหมือนจะปิดแต่สุดท้ายก็กลายเป็นไข่ห่าน! สุดท้ายอิพ่ออิแม่ยอมแพ้ เดินจนเหนื่อยละ กลับก็ได้
ขับรถวนๆ ไป ตามสองข้างถนนมีต้นปาล์มเหมือนในหนังเล๊ย! ก็ดูเพลินๆ
สิริรวมนางนอนไป 1 ชม. ตื่นมากินนม อุนจิให้มี้สบายใจ จากนั้นพวกเราก็ไปเดินเล่นริมหาดกัน มีสนามเด็กเล่นด้วย เลยปล่อยให้หมีคลานเล่นพักนึง
กินข้าวเย็นที่ร้าน garlic shack
กินกันที่นี่เพราะเป็นร้านเดียวที่อยู่ใกล้ที่พัก!
คนครัวน่ารักมาก (อาจจะเป็นเจ้าของ) พอบูถามว่าย่างเห็ดให้เบบี๋ได้ไหม เอาแบบไม่เค็ม เค้าบอกว่าเห็ดมันปรุงรสมาแล้ว บูบอกว่าไม่เป็นไร แต่เค้าบอกว่าเป็นไรสิ ฉันต้องคิดให้ได้ว่าจะทำอะไรให้เบบี๋ดี (แล้วก็ทำท่าคิดหนัก) สุดท้ายเค้าทำชีสแซนวิชให้เจ้าหมีกินแผ่นนึงฟรีเลยน่ารักมากๆ (ขนาดชีสยังแอบเค็ม ไม่อยากจะคิดว่าเห็ดจะเค็มแค่ไหน!)
ที่นี่เป็นที่แรกที่เห็นคนทำฟรายส์ด้วยกระเทียมสด! อร่อยมาก กินกัดจนเกลี้ยงทุกเส้น เบอร์เกอร์เค้าก็โอเคมากนะ ง่ายๆ แต่ได้รสชาติ มีเบียร์อะไรให้เสร็จสรรพ และมีไฮแชร์ให้ด้วยค่า
แล้วก็จบไปอีกวัน…เหนื่อยมากวันนี้ ตื่นเช้า+เจ็ตแลก คืนนี้หมีจะตื่นมาร้องรึเปล่าคงมิต้องสงสัย
วันที่ 2 ใน San Diego
กินอาหารเช้าที่ The cottage
ไปกินกันตอน 8 โมงนิดๆ ซึ่งจังหวะดีมาก เพราะตอนเราเดินออกมา มีคิวรอหน้าร้านยาวเชียว
ที่นี่เป็นร้าน brunch สไตล์แคลิฟอร์เนียนแบบโมเดิร์นค่อนข้างขึ้นชื่อ พนักงานน่ารัก อาหารโอเค และที่นี่เจ้าหมีได้สั่งอาหาร Kid’s menu ของตัวเองเป็นครั้งแรก คือ buttermilk pancake กับผักผัด (ปกติจะเป็นอาหารที่เราเตรียมมา เช่นเต้าหู้ ไข่ อะโวคาโด อาหารซองสำหรับเด็ก) การมาเที่ยวทำให้ได้ทำอะไรใหม่ๆ เสมอเลยนะ คราวก่อนไปชิคาโก้เจ้าหมีก็นั่งไฮแชร์ครั้งแรก คราวนี้มา cali ก็เริ่มสั่งอาหารของตัวเองกินแล้ว … มามีรู้สึกลูกโตเร็วมาก (อ้อ เมื่อคืนตื่นมาร้อง 2 หนค่ะ งือออ มี้ตาแพนด้าเลยวันนี้)
กินอาหารเช้าเสร็จ พวกเราเดินไป La Jolla cove ซึ่งเป็นแหลมยื่นในทะเลหลายๆ แหลมต่อกัน มีสองแหลมที่มีแมวน้ำนอนอืดเล่นอยู่บนหาดทราย ได้ดูแบบใกล้ๆ เลยก็มี ตื่นเต้นกว่าการได้ดูในอะแควเรี่ยม และการที่ไม่ได้วางแผนว่าจะได้เห็นยิ่งทำให้สนุก
Lego Land California
ออกจากดูแมวน้ำก็ตรงดิ่งมาที่นี่เลยค่ะ
ที่จอดรถเค้ามีสองแบบคือจ่ายแพงได้จอดใกล้ จ่ายถูกกว่าต้องจอดไกล แต่ก็เดินไม่ไกลมากหรอกไม่ต้องกลัว มาถึงราวๆ สิบโมงนิดๆ คนเยอะแล้ว และทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ให้มาเช้าๆ จะดี
เราไม่เคยไปเลโกแลนด์ที่มาเลเซียเลยไม่รู้ว่าที่นี่ใหญ่กว่ารึเปล่า แต่มาที่นี่สนุกดีนะ ถึงจะไม่ค่อยได้เล่นไรด์อะไรเลยก็ตาม ขนาดไม่เล็ก แต่ก็ไม่ใหญ่ ใช้เวลาที่นี่สัก 4 ชม. รวมกินข้าวฯลฯ กำลังสบายๆ
ถ้าเป็นสมัยก่อนคงวิ่งต่อคิวมันทุกไรด์ แต่ยุคนี้คือต้องมองหาอะไรที่เบบี๋ขึ้นได้ (เมื่อก่อนคงไม่แม้แต่จะแลตาองไรด์แบบนี้!)
ไรด์แรกในชีวิตหมีคือล่องเรือชม fairy tale ท่าทางดูชอบอยู่ ด้วยความที่กลัวเจ้าหมีจะแรงเหลือ เลยแวะไปคลานเล่นที่ duplo land ซึ่งเป็นสนามเด็กเล่นขนาดกำลังดี เหมาะกับเด็กเล็กมากเพราะพื้นนุ่ม จะคลานก็ได้ เดินเตาะแตะก็ดี มีนู่นนั่นนี่ให้เกาะเยอะเลย ระวังพวกเด็กโตๆ ที่ชอบวิ่งเร็วๆ หน่อยก็พอ
กินข้าวกะบะหมี่ที่ร้านอาหารใกล้ๆ (พอใช้ได้) กินเสร็จไปลงนั่งไรด์เรือดำน้ำที่คนต่อคิวยาวมากเค้าบอกเป็นไฮไลท์ เออๆ เอาๆ ต่อด้วย ไม่งั้นรู้สึกเหมือนไม่คุ้มเงินขั้นสุด…ใช้เวลาต่อยาวมาก ลงไรด์สั้นมาก ฮ่าๆๆ แต่ก็เออสนุกดี เจ้าหมีเกาะกระจกดูเพลิน
เดินวนดูเมืองจำลอง กินแอปเปิลคลุกน้ำตาลกะวิปครีม (ไฮไลท์เลยนะ อร่อยแค่ไหนดูจากหน้าเจ้าหมีเลย นางกินไปหลายชิ้นมากๆ อิแม่เคาะน้ำตาลออกรัวๆ!)
แล้วก็กลับ หมดแรงนิดๆ ละ
แวะ Berth Aquarium
เป็นอะแควเรี่ยมเล็กๆ เหมือนศูนย์ให้ความรู้ซะมากกว่า ได้เห็นปลาหมึกยักษ์ ฉลามลายจุด และปลาผีเสื้อสีและหน้าตาแปลกกว่าที่เคยเห็นมา ใช้เวลาอยู่ในนี้สักชม.นึงได้ หมีก็ได้เกาะกระจกดูปลานั่นนนี่เหมือนกัน
อาหารเย็น
ตอนขับรถมาที่นี่ ก็แอบกังวลนิดหน่อยเพราะทั้งวันเจ้าหมีอึไปนิดเดียว ดังนั้นพอกินนมมี้เสร็จ นางก็ช่วยให้มี้สบายใจ ด้วยการอึในปริมาณเหมาะสม
อาหารเย็นค่ำนี้เป็นร้านเม็กซิกันที่เค้าว่ากันว่าอร่อยและออเท็นติกมาก บรรยากาศร้านจะฮิปๆ หน่อย คนทยอยมาต่อคิวตั้งแต่ร้านเปิด! เรานี่ตั้งตารอเลยว่าจะอร่อยซักแค่ไหน…
…ก็อร่อยนะ แป้งตอร์ติย่านี่แบบว่าหอมม๊าก และนุ่มอร่อยจริงๆ รสชาติต่างจากการกินในนิวยอร์กรู้สึกได้ คือความนัวมันมา
ขนมอร่อยมาก ชูโรสกะไอติมวานิลลาแกล้มพริกเม็กซิกันนิดหน่อยคือเด็ด
แต่ร้านไม่มีไฮแชร์ บวกกับเจ้าหมีงอแงกินน้อย ทำเลอะเทอะ
ความอร่อยจึงลดลงไปบ้าง … อิแม่กระปลกกระเปลี้ยกลับบ้านเลยทีเดียว
จบไปอีก 1 วัน…
adaytrip diary 