Fire Island เกาะไฟฟู่ๆ

เกาะไฟอยู่ห่างจากแมนฮัตตันออกไปไม่ถึง 1 ชม.เอง แต่การจะไปต้องมีรถ เพราะไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเอื้อมถึง ครอบครัวตัวพีได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนคุณบู ให้พวกเราติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วย ขอขอบพระทัยมา ณ ที่นี้

จุดเด่นของเกาะไฟคือลักษณะที่เหมือนเนินทรายเล็กๆ ทอดตัวยาวเหยียด มีแนวชายหาดทรายขาวสะอาดตากินพื้นที่รอบเกาะถึง 83 ไมล์ ขณะที่ความกว้างนั้นน้อยมาก เดินจากด้านนึงไปอีกด้านนึงใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเอง

021712-D-CR197-129

Photo from : www.nan.usace.army.mil/Missions/Civil-Works/Projects-in-New-York/Fire-Island-to-Montauk-Point-Reformulation-Study

บ้านเรือนบนเกาะนี้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเลของคนในเมืองเสียมากกว่า เพราะที่นี่มาได้เฉพาะหน้าร้อน มาช่วงอื่นจะหนาวจัด เย็นจัด ไม่ใช่แค่ว่าลงเล่นน้ำไม่ได้ แค่จะมาอยู่ก็คงไม่ไหว เพราะถ้าที่อื่นหนาว ที่นี่จะหนาวกว่า ถ้าที่อื่นมีพายุหิมะ ที่นี่ก็จะโดนแบบหนักกว่าเนื่องจากอยู่ประจัญหน้ากับทะเลเลย

บ้านพักตากอากาศที่นี่ทำน่ารักมากกกก ส่วนใหญ่ปล่อยให้เช่าในหน้าร้อนเท่านั้น

 

พวกเราจอดรถกันที่ Bay 5 สุดเกาะทางด้านซ้าย แล้วเดินเล่นตามสะพานไม้ไปจนถึงประภาคารเก่าแก่ ที่ตอนนี้ก็ยังใช้การได้

IMG_5169
มีสะพานไม้อย่างดีให้เดิน
IMG_5176
อากาศวันนี้รึก็ดีมาก แดดเปรี้ยงๆ แต่ลมเย็นฉิว
IMG_5171
ห้ามปีนขึ้นเนินทรายที่เขาทำไว้กันคลื่น

IMG_5178

IMG_5192
ประภาคารเก่าแก่ เดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ 
IMG_5193
นี่คือออริจิของหลอดไฟประภาคาร ที่เขาถอดออกมาให้ดู ส่วนที่ใช้งานปัจจุบันเป็นหลอดไฟสมัยใหม่
IMG_5201
ถัดจากประภาคาร จะเป็นถนนทราย เดินไปยังหมู่บ้านพักตากอากาศชายทะเล
IMG_5199
เจอกวางตาแป๋วระหว่างทาง
IMG_5204
และในที่สุดก็มาถึงหาดอีกด้าน…เดินไม่นานเลย แค่ 30 นาทีเอง

พวกเราเดินเตาะแตะมาถึงหมู่บ้าน Kismet เห็นร้านอาหารเก่าแก่ ท่าทางน่าอร่อย จึงเดินเข้าไปสั่งอาหารกันทันที หิวล้าว

IMG_5210
หอย Steamers soft shell นึ่งกินกับเนยเหลว เห็นแค่นี้กินอิ่มมากกก
IMG_5213
เหมือนกุ๊ยดั๊กเวอร์ชั่นจิ๋วกว่า หวานๆ ดีนะ
IMG_5211
ส่วนข้าเจ้า กิน fried calamari จ้า อร่อยตรงไม่อมน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน ลงตัวมาก …ปล.นี่เป็นไซส์แอปปิไทเซอร์พี่เขานะ ยังมาเยอะขนาดนี้ กินจนจุกอะ

น้ำทะเลช่วงบ่ายแกยังเย็นเฉียบ แค่เดินเอาเท้าไปจุ่มๆ ยังเชี้ยบบบบหัวแม่เท้า ลงไปเล่นน้ำคงได้ตัวแข็งตาย อีกอย่างเขาอนุญาตให้ลงว่ายน้ำได้เฉพาะบริเวณที่มี life guard on duty เท่านั้น ซึ่งก็เข้าท่า เพราะคลื่นแถบนี้แรงโคต วิ่งๆ ลงไปนี่อาจจะโดนคลื่นซัดตูมกู่ไม่กลับได้

ด้วยความที่ไม่ได้หยิบเสบียงอะไรติดตัวมา เลยพากันถอดรองเท้าผ้าใบ เดินบนหาดกลับไปที่ลานจอดรถ แล้วค่อยหาที่นั่งปิคนิคกัน การเดินบนหาดนี่จัดเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายหนักอย่างนึงเลยนะ เพราะมันใช้เรี่ยวแรงเยอะจริงๆ กว่าจะถึงนี่คือหอบแฮก ที่กินๆ ไปคงจะหายหมดละ

สิ่งนึงที่ประทับใจมาก คือไม่ว่าหาดจะยาวแค่ไหน มันสะอาดแทบจะหาขยะสักชิ้นไม่เจอ ทรายละเอียดเดินไปไม่ต้องกลัวแก้วบาดเท้า อยากให้หาดบ้านเราเป็นแบบนี้บ้าง ไม่รู้เป็นแค่เรารึเปล่า แต่เดินบนหาดในไทยทีไร จะต้องเห็นเศษแก้วขวดเบียร์บนหาดทุกครั้ง ที่นี่เขาห้ามเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปทานบนหาดเลยค่าเจ๋งมาก

IMG_5217
Fire island
IMG_5223
Fire island
IMG_5233
Fire island
IMG_5242
Fire island

คนส่วนใหญ่ก็มาปูเสื่ออาบแดดกัน เห็นบางคนดำเป็นเหนี่ยงแล้วฉันนี่กลัวแสบแทน (ส่วนพวกเขาเห็นฉันใส่หมวก ใส่ปลอกแขน กุงเกงขายาว ก็คงระอาเหมือนกัน)

ปิดทริปด้วยการนั่งปิคนิคกินขนม ผลไม้กันแป๊บนึง ก่อนพากันกลับตอน 6 โมงเย็น เห็นบางกลุ่มยังเพิ่งเอาอาหารลงมาเตรียมปิคนิกกันเอง เพราะหน้าร้อนที่นี่พระอาทิตย์ยังไม่ตกจนกระทั่งเกือบ 3 ทุ่ม

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s