The High Line : ดูนก ชมไม้ ส่องบ้านคน

ไม่น่าแปลกใจที่ไกด์บุ๊กทั้งหลาย ล้วนพูดถึง The high line ว่าเป็นอีก 1 must see ในนิวยอร์ก ที่มาแล้วก็ต้องแวะกันให้ได้ จะไม่ให้ทึ่งยังไงในเมื่อเขาเปลียนเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าที่สร้างขึ้นในปี 1930 (เลิกใช้งานปี 1980) มาเป็นทางเดินร่มรื่น สวยซ้ำงามแจ่ม เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทำให้เราสัมผัสกับความเป็นนิวย๊อร์ก นิวยอร์กได้ตลอดเวลาที่เดิน

The High Line ได้รับการระดุมทุนเพื่อก่อตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อพัฒนาพื้นที่เป็นครั้งแรกในปี 1999 โปรเจ็กต์นั้นได้คนดังหลายคนมาช่วยรณรงค์ ก่อนโปรเจ็กต์จะถูกเคาะให้เป็นจริงในปี 2002 ยุคที่คุณ Michael Bloomberg เป็นนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก (เขาเป็นที่รักของนิวยอร์กเกอร์ ช่วงสองเทอมที่เขาดูแลนิวยอร์กโดยรับเงินเดือนเพียงเดือนละ $1 เขาสร้างอะไรดีๆ หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการดูแลรักษาความสะอาด subway ที่เข้มงวดกว่าปกติ…นี่สินะคนที่มีพอแล้ว และคิดจะตอบแทนสังคมจริงๆ)

หน้าร้อนปีแรกที่มานิวยอร์ก เราไป High Line 2 ครั้ง นอกจากจะเพลินกับลมเย็นๆ ดอกไม้ใบหญ้า ความสนุกอีกอย่างคือการได้ส่องดูบ้านคนที่เรียงรายสองข้างทางอย่างสนุก ถกกันเพลิ๊น ว่าถ้าฉันมีบ้านอยู่ตรงนี้จะรำคาญดี หรือควรพอใจ

ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือ ไปทีไรก็จะได้เห็นบรรยากาศเปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีงานอาร์ตจัดแสดงบ้างประปราย บางอย่างก็หมุนเวียน บางชิ้นก็ถาวร ที่ขาดไม่ได้คือม้านั่งมากมายตลอดทางเดิน เผื่อใครเมื่อยขาก็เขลงตัวลงนั่งพักได้สบายแฮ (ถ้าว่าง) บนนี้ด้านที่ใกล้ๆ กับ Whitney Museum จะมีแผงอาหารและแผงกาแฟ blue bottle ที่ฮิตนักหนามาเปิดด้วย

ล่าสุดที่เราไปช่วงเดือนเมษา ฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นลงนิดๆ เชื้อชวนให้คนออกมาเดินเล่นนอกบ้าน โห….คนแทบทะลัก high line ค่ะ! เรียกว่าการจราคนติดขัดกันบนนั้นเลย แต่ก็ยังสนุกนะ เดินเกาะกระแสคนไปเรื่อยๆ ข้อดีของการเดินหน้าร้อนคือเขาเปิดถึง 4 ทุ่ม (เริ่มเดือนเมษา-ตุลานะคิดว่า) ถ้าเราไปตอนเย็นย่ำเกือบโพล้เพล้ บรรยากาศจะดี๊ดี เย็นสบายไม่มีแดดร้อนๆ ทิ่มหน้าให้กระกระจาย

DSCF7576
The High Line, New York.
DSCF7580
The High Line, New York.
DSCF8345
The High Line, New York.
DSCF8362
The High Line, New York.
IMG_4581
The High Line, New York.
DSCF8363
The High Line, New York.
DSCF8366
The High Line, New York.
DSCF9434
The High Line, New York.

ไป The High Line จัดซับเวย์ Line 7 ลงสถานี:  34th street Hudson yard station 
หรือ search: high line north entrance

ไหนๆ อยู่แถบนี้ ยัยเอ๋น้อยเลยแถม(โคตรจะ)มินิไกด์ให้ซะเลย ทัศนาได้จากแผนที่นี้ หรือคลิกที่นี่เพื่อดูใน google maps จริง

0001

ด้วยความที่ไฮไลน์ตั้งอยู่ใน Chelsea ซึ่งย่านนี้ Art gallery เยอะแยะยุ่บยั่บ ใครชอบชมงานศิลป์ก็ขอเชิญนะคะ บางแห่งก็มีของแตกต่างให้ดูเพลิน ส่วนยัยเอ๋น้อยจะไปเฉพาะเวลามีอะไรหนุกๆ เท่านั้น

IMG_4209
หนึ่งในอาร์ต แกลลอรี่ที่ Chelsea

1: The High Line Hotel
ตัวโรงแรมเก่าแก่นี้ เขามีรถกาแฟให้บริการด้านหน้า เราเข้ามาฆ่าเวลาระหว่างรอคิวร้าน The Cook Shop กาแฟดี บรรยากาศสนุกดี มีคนเข้าออกตลอด มานั่งปักหลักพักขาอะไรได้ หรือจะเข้าไปดูความขลังแบบโรงแรมเก่าด้านในเขาก็ไม่ว่า

IMG_4253
The High Line Hotel

2.: Cook Shop
เป็นร้านบรันช์สุดฮิตของย่านนี้เขา เราใช้เวลารอคิวราว 10 นาทีเองมั้ง (ก็ไปนั่งจิบเครื่องดื่มรอที่ The High Line Hotel เวลาเลยผ่านไปเร็วเชอ) อาหารร้านนี้อร่อยมาตรฐาน ไม่ว้าวเท่าเครื่่องดื่มเขาที่เด็ดจริงไรจริง พวกผสมแอลกอฮอล์อย่างบลัดดีแมรี่ ที่คุณบูไปร้านไหนก็สั่งประจำ ยังบอกเลยว่าเออมันแปลกจริง เพราะเค้าทำเป็น BLT บลัดดีแมรี่ คือมีเบคอน ผักกาดหอมและมะเขือเทศเหมือนเบอร์เกอร์ในแก้วเดียว คุณบูยังสั่งอะไรไม่รู้อีกแก้ว นางก็บอกว่าเป็นคอมโบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่ก็อร่อยดี ขณะที่ยัยเอ๋น้อยสั่งน้ำมะนาวโฮมเมด สุดยอด! คือน่าจะใส่ขิงบดลงไปในนั้นสักครึ่งหัวได้ รสแรงจี๊ดจ๊าดได้ใจ ชอบมากๆ

 

3: The Church of St.Luke
พอมองจากแผนที่ ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างห่างจากไฮไลน์ แต่เอาวะ เผื่อใครเดินร่อนเร่โต๋เต๋มาเหมือนเรา จริงๆ โบส์นี้ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ตระการตาอะไร แต่ถ้าไม่ใช่หน้าหนาว เขาจะปลูกดอกไม้สวยๆ ไว้ในสวนให้คนเข้ามานั่งเล่น มีตั้งโต๊ะบริจาคไว้ข้างหน้าซะน่ารักเชียว พวกเราเดินเข้ามานั่งแล้วก็ผลอยหลับกันไปในนี้กันพักใหญ่เลยอ่ะ ชิลล์มาก นกร้องใกล้ๆ ดอกไม้ก็สวย มีทิวลิปด้วยเพลินตามาก แถมข้างๆ โบสถ์มี St.Luke’s thrift shop ให้เข้าไปช้อปได้ด้วย (สะอาดมาก ไม่มีกลิ่นอับ แถมติดแอร์อีกต่างหาก)

IMG_4296
St.Luke’s Garden

4.: Whitney Museum
ใครเรียงลำดับตัวเลขนี่ อยากจะเบิ๊ดกะโหลกนัก (ก็แกเองไง) เพราะ Whitney museum อยู่ปลายทางอีกด้านของไฮไลน์ ดังนั้นเดินจบแล้วก็แวะมิวเซียมเขาสักนิด เป็นที่จัดแสดงผลงานศิลปะของคนอเมริกันโดยเฉพาะ ตัวมิวเซียมเองก็สวยจะแย่ ขึ้นไปข้างบนเห็นวิวมุมสูงด้วย (อ้าว ไม่คิดจะโปรโมทงานศิลปะให้เขาเลยเรอะ?)


5.Chelsea Market

เป็นไปได้เหรอที่มาแถวนี้แล้วจะไม่แวะ Chelsea Market ตลาดเท่มากแห่งนี้คือแหล่งรวมทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาข่ะ ทั้งร้านอาหารซีฟู้ดสุดฮิต หรือร้านอาหารอะไรก็ตามที่ละลานตาจนยากจะตัดสินใจเลือก ไม่พอยังมีร้านขายของฝาก (เพิ่งเคยเห็น teapigs แบ่งขายห่อละ 3 ซองก็ที่นี่ จุ๋มจิ๋มน่ารักโคตร!)  มีร้านอุปกรณ์ทำขนม ร้านวัตถุดิบอิมพอร์ตจากอิตาลี (คล้ายจะเป็นร้านเก่าแก่สำหรับโลคัลเพียงหนึ่งเดียวที่ยังอยู่) ร้าน Anthropologie ก็มีตรงนี้สาขานึง เดินๆ เข้าไปเถอะ รับรองเพลิ๊น!

IMG_4277

6.The Spotted Pig
ถ้าหากคิดว่าอยากลองหนึ่งในเบอร์เกอร์เด็ดของนิวยอร์ก ก็แนะนำว่ามาที่นี่ (นัยว่าติดอันดับต้นๆ เรื่องเบอร์เกอร์) ที่นี่เขามีเมนูเบอร์เกอร์แค่อย่างเดียว แตกต่างตรงใช้บลูชีสแทนชีสอื่นๆ รสมันเลยเจ้มจ้นไม่เหมือนใคร กินกับฟรายส์แบบบางๆที่เขาเรียกกันว่า Shoestring fries ที่จะบางกว่าของที่อื่นก็อร่อยไปอีกแบบ (แต่หยิบกินยากชิบเป๋ง) ส่วนตัวเราชอบฟรายส์นะ แต่คิดว่าเบอร์เกอร์เค็มไปนิด แม้เขาจะใส่ชีสไม่มาก คงเพราะรสมันแรงจริงๆ

00002
The Spotted Pig

7.: IAC building 
สำหรับคนชอบดูตึกสวยๆ แปลกๆ เดินจากไฮไลน์มานิดเดียวจะเจอตึกภูเขาน้ำแข็งของคุณ Frank Gehry มองไกลๆ สวยนะ พอมองใกล้ๆ อดฉงนไม่ได้ว่าเค้าทำกระจกให้มันฝ้าๆ ได้ยังไง ลักษณะของมันคล้ายกับกุ๊กเกนไฮม์มิวเซียมเลยเพราะคนออกแบบคนเดียวกัน
ส่วนตึกที่อยู่ถัดไปก็กิ๊บเก๋ใช่ย่อย เพราะใช้กระจกมาปะติดปะต่อกันรอบอาคารกว่า 1647 บานจนกลายเป็นอาคารทั้งหลัง เออ เอากะเขาดิ

IMG_4272
IAC building
DSCF7574
วิวตอนกลางคืนนะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s