ตลาดของกินที่ใหญ่ที่สุดในบาร์เซโลน่าก็คือ ‘La Boqueria’ เปิดถึงตี 1 ดังนั้นถ้าคิดจะฝากท้องไว้ที่นี่สักมื้อก็ดูจะเป็นแนวคิดที่ดี เพียงแค่อาจต้องเลือกเวลาให้เหมาะสม เพราะคนเยอะมาก-มาก เนื่องจากที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว คนหลั่งไหลกันเข้ามายังกะมีของแจกฟรี
อาหารตามแผงต่างๆ ในตลาดดูน่ากินน่าลองไปซะหมด ทั้งของหวาน ของคาว เครื่องเทศ หมูแฮมฮาม็องที่ขึ้นชื่อของสเปนก็มีขายแบบเป็นแพ็คๆ พร้อมให้ซื้อกลับบ้าน แต่ละร้านขายของไม่ค่อยซ้ำกันอีก ดูเพลินม๊าก! โดยเฉพาะพินโชส์…แต่ละร้านก็จะมีสูตรเด็ดของตัวเองน่าลองไปซะทั้งนั้น
แต่อย่างที่บอกว่าตอนเราไปคนเยอะสุดๆ หาร้านว่างนั่งไม่ได้เลย (ถึงได้นั่ง ก็คงกินแบบไม่ชิลล์เท่าไร) ดังนั้นสิ่งเดียวที่พอจะหามายาไส้ไม่ให้ท้องกิ่ว ก็คือ….ฮาม็องใส่กระทงกระดาษ กินกับขนมปังแท่ง ฮ่าๆๆๆๆ จริงๆ กินเปล่าๆ ก็เค็มนะ แต่วินาทีนั้นหิว หิ๊ว หิว มากกกกกเลยกินได้ แล้วตบท้ายด้วย llao llao ซึ่งเป็นโฟรโยเทพแสนอร่อย (ตอนนี้น่าจะมีเปิดในเมืองไทยแล้ว ที่สิงคโปร์ และฮ่องกงก็มีสาขา ของเค้าดีจีจี)

ในเมื่อตลาดของกินที่แรกคนเต็ม ไม่สามารถเบียดร่างเข้าไปกินได้ เราเลยเดินไปหาตลาดที่สองชื่อว่า Caterina Market ซึ่งเล็กกว่า แต่ของครบและคนน้อยกว่าเยอะมาก นัยว่าไม่ใช่จุดหมายของนักท่องเที่ยว คงเห็นว่ามันไม่ค่อยคุ้มที่จะมาเหมือนตลาดแรก มีร้านทาปาสให้นั่งกิน 2-3 ร้าน คุณบูดมกลิ่นพบว่าร้านชื่อ Santa Caterina Cuines น่าจะอร่อย แนวคิดเค้าคือการซื้อของจากในตลาดนั่นแหละมาทำอาหาร แบบสดๆ เลย เราพบว่าเมนูร้านนี้มีคอมบิเนชั่นของวัตถุดิบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน แต่อร่อยนะ โดยเฉพาะเมนูคาลามารี่ กับหน่อไม้ฝรั่ง (เอาไป 100 บราวนี่พอยน์!) หรือผักอบบลูชีสที่ทำให้ผักเดิมๆ อร่อยล้ำขึ้นมา เหนืออื่นใดคือคนไม่ค่อยเยอะเท่าไร นั่งกินกันสบายชิลล์มาก เป็นร้านที่เราแนะนำนะ มาบาร์เซฯ เรากินอาหารในร้านทุกมื้อ ไม่เคยกินแซนวิชหรืออาหารง่ายๆ แบบพอให้หายหิว (บอกแล้วว่าสายกิน!) แต่ไม่ได้เขียนถึงทุกร้าน เพราะบางร้านก็เฉยๆ หรือบางร้านก็ไปยาก


ก่อนมาบาร์เซโลน่า เพื่อนที่ทำงานคุณบูแนะนำร้านอาหารซีฟู้ดบรรยากาศคลาสสิก ชื่อ Botafumeiro Barcelona ถ้าใครเป็นคอซีฟู้ดล่ะก็ ร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน มาแบบตูมๆ กินกันเต็มๆ และของสดหวานฉ่ำสมใจ กินกันชุ่มปอด เราสองคนเกือบกินไม่หมด อิ่มม๊ากกกก ทั้งที่มีเท่าที่เห็นเองนะ
อ้อ แล้วบรรยากาศร้านนี้ก็วินเทจสุด ทั้งการตกแต่ง พนักงาน คนที่มากินก็แต่งตัวสวยๆ กันเหมือนเป็นโอกาสพิเศษ ก็เป็นอีกร้านที่แนะนำ ราคากลางๆ ค่อนไปทางสูง
ร้านนี้กินเพราะเดินผ่าน แล้วคุณบูอ่านเจอว่าเด็ด เข้าไปกินแล้วก็รู้สึกว่าเด็ดจริง เมนูไม่เคยพบเห็นหลายสิ่ง ส่วนใหญ่เน้นอาหารจานเล็กๆ แนวทาปาส กินได้หลายอย่างสนุกดี ชื่อร้านว่า Flauta (หากูเกิลเอานะ) อาร์ติโช้คทอดกรอบนั่นก็เพิ่งเคยกิน หรือเห็ดมอร์เรลกับกุ้งเสียบไม้ก็อร่อย โดยเฉพาะปลาหมึกทอดนั่นตราตรึงใจ จริงๆ แล้วมีเมนูให้เลือกอีกหลายๆๆๆ อย่างมาก ใครชอบอะไรก็สั่งแบบนั้นมาลอง ตอนไปบ่ายแก่แล้วคนยังเต็มร้าน
ร้านนี้อ่านเจอจากไกด์ ชื่อ Ikibana Paralelo อาจจะมีคำถามว่าเพี้ยนป่าว ไปกินอาหารญี่ปุ่นถึงสเปน แต่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ผสมผสานญี่ปุ่นกับบราซิลเลี่ยน (เป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน) เมนูญี่ปุ่นจ๋าๆ ก็มานะ แต่เมนูทวิสต์ก็สนุกมากๆ อาหารอร่อย เครื่องดื่มพวกค็อกเทล ม็อคเทลเค้าก็แจ่ม ด้วยความที่โต๊ะของทุกคนเป็นแบบหันหน้าเข้าหากัน ดังนั้นคนส่วนใหญ่ก็จะคุยกันข้ามโต๊ะ เมาท์อาหารคนอื่นบ้าง ถามถึงอาหารของเราบ้าง เป็นบรรยากาศการกินที่สนุกไปอีกแบบ (ตอนกลับมีบ๊ายบายกันด้วยนะ น่ารักมากๆ)
ร้านสุดท้ายเป็นร้านใกล้รร. The Generator Hostel เผื่อใครมาพักนี่ยัยเอ๋น้อยแนะนำมาก ชื่อร้าน Ferrum เราไปกินตอนเกือบ 2 ทุ่มซึ่งร้านอาหารอื่นปิดกันเกือบหมด พอเห็นร้านนี้เปิดก็พุ่งเข้าไปนั่งโดยไม่คิดไรทั้งสิ้น ไม่มีข้อมูล ไม่ได้อ่านรีวิว คิดแค่ขอให้มีอะไรกินก็พอ ปรากฏอร่อยผิดคาด (เพลงพี่ติ๊นามาข่ะ!!! พลิกล็อคกันน่าดูววววว ถล่มทะล้ายยย) คือทุกเมนูที่สั่งมาอร่อยหมด ปลาที่ไม่ได้คาดหวังมันกลมกล่อมบาลานซ์ (สั่งปลา Hake กับ monkfish) โดยเฉพาะสับปะรดเย็นนั่น ใส่มะพร้าวกับพริกไทไปด้วย คือมันกินแล้วสดชื่นทั้งที่หน้าตาไม่ให้ เป็นอีกหนึ่งมื้อประทับใจมากๆ แนะนำ