เป็นรีสอร์ทเครือ Six Senses ที่ 2 (หรือ 3) ที่เรามาพัก หลังจากประทับใจกับการบริการของ Six Senses Yaonoi, Phuket การจะมาพักที่นี่ เราต้องเดินทางจากตัวเมืองเฉิงตูออกมาราว 1 ชม.
ปกติจะเดินทางมาด้วยรถไฟก็ได้ (ประหยัดสุด) แต่อย่างที่เกริ่นไว้ในบล็อกเฉิงตูก่อนหน้า ว่าเรามาช่วงวันหยุดยาวของจีนกัน ดังนั้นรถไฟจึงเต็มเอี้ยด (อย่าหวังว่าจะมีตั๋ว!)
ไม่พอ…จากปกติที่เรียกแท็กซี่ไปได้ในราคา 300 RMB ก็ต้องมาเสียค่าแท็กซี่แพงเป็นเท่าตัว (บูเรียกประชุมนับเงินสดในกระเป๋าอย่างเร่งด่วน)
ไม่พอ2…จากปกติใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองไปเขาชิงเชงแค่ 1 ชม…ก็กลายเป็น 2 เกือบ 3 ชม. อันเนื่องจากมหากาฬรถติด (ให้นึกถึงรถติดย่านรังสิตช่วงสงกรานต์ไว้ นั่นเลย!!!)
คิดดูแล้วกัน รถติดขนาดแท็กซี่ต้องแวะเติมแก๊สริมทาง อันทำให้เรารู้กฎของการเติมแก๊สในประเทศจีนว่า ผู้โดยสารทุกคนจะต้องลงจากรถ ซึ่งทางปั๊มจะวางเก้าอี้ไว้ให้นั่งรอตรงหน้าปั๊ม…และกิจกรรมของคนที่มานั่งส่วนใหญ่ก็คือ…สูบบุหรี่!!! ใช่ค่ะ สูบบุหรี่! พวกเอ็งสูบกันหน้าปั๊มแก๊สนี่เลยมันเสียวไหม! โชคดีที่รถเติมแก๊สไม่นานก็เสร็จ ไม่งั้นฉันคงต้องร้อนๆ หนาวๆ อยู่ตรงนั้น
เรากับคุณบูนั่งหลับๆ ตื่นๆ อยู่ในรถแท็กซี่ที่บางทีก็หยุด บางทีก็วิ่งไหลยาวๆ ขณะที่พี่แท็กซี่โทร.คุยกับเพื่อนและสูบบุหรี่แก้ง่วง (ทั้งที่มีสติกเกอร์ห้ามสูบแปะอยู่ตรงคอนโซล) และพอใกล้ถึงแกก็ยูเทิร์นรถป้าบ ชี้มือไปทางหางแถวรถติดที่ยาวเป็นหลายโลแล้วบอกว่า ฉันขอยูเทริ์นกลับตรงนี้ละนะ ส่วนเธอสองคนเดินเข้าไปรีสอร์ตเองละกัน นั่นไง (นางชี้ส่งๆ ไป) เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึง
อ่าม…ทิ้งกันหน้าตาเฉยเลยนะพี่ แต่จะว่าไปก็ดี เพราะขืนนั่งในรถคงแกร่วอีกเป็นนาน ขณะที่เดินใช้เวลาแป๊บเดียวเอง
SS ที่ชิงเชงค่อนข้างเหมาะกับการถ่ายรูปนะ เค้าตกแต่งสไตล์จีนซะสวยแจ่ม เขียวครึ้มด้วยต้นไม้ที่ปลูกสอดแทรกในทุกมุมมองเท่าที่ทำได้ แค่มองก็ยังสบายตา เพียงแค่ว่า…เราไปวันหยุดไง้! (อย่าลืมๆๆ) บรรยากาศตรงรีเซฟชั่นเลยกระจองอแงพอควร คนหลายกลุ่มกำลังจะเช็คเอาต์ บ้างก็จะเช็คอิน หลายกลุ่มหิวแล้วกำลังจะไปกินข้าว โอย…วุ่นวายมาก ทำเอาเสียจังหวะนิดนึง แต่พนักงานคงรู้เลยบอกว่าจะเก็บกระเป๋าไว้ให้จนกว่าห้องจะทำเสร็จ จากนั้นนางก็ให้เหรียญเรามากำมือนึง เป็นเหรียญทำเลียนแบบเงินจีนโบราณ เอาไว้แลกป๊อบคอร์นกับไอติมที่ The Square ซึ่งเป็นเหมือนลานกว้างที่มีโรงเตี๊ยมเล็กๆ (ร้านอาหารต่างๆ) ล้อมรอบ เธอไปหาไรเย็นๆ ใส่พุงก่อน ถึงเวลาเข้าห้องได้ฉันจะไปบอกนะ ชิ่วๆๆ
เรา 2 คนกำลังคอแห้งผากจากการนั่งรถมาเกือบ 3 ชม. เลยสั่งน้ำผลไม้มากินคนละแก้ว และไอติม popcorn อีก 1 สกู๊ป (ไม่ค่อยอร่อย มีไอติมแค่ 4 รส สู้ที่ยาวน้อยไม่ได้มีให้เลือกเป็นสิบ!)

มาดูภายในห้องกันบ้าง…ห้องเค้าใหญ่มาก (สมกับเป็น SS ในเมืองจีน ทำไรต้องใหญ่ไว้ก่อน!) อาจจะใหญ่กว่าอพาร์ตเมนท์ข้อยในฮ่องกง T^T มีแบ่งสัดส่วนชัดเจนส่วนนอน ส่วนอาบน้ำ ส่วนนั่งเล่น และมีส่วน outdoor เป็นสวนเล็กๆ อยู่ในห้องด้วย! เอาไว้นั่งมองสวนตั้งสติทำตัวเซนกันไป ซึ่งเราสองคนใช้เวลาตรงนี้กันวันละหลายชั่วโมง มีส่วนให้วางกระเป๋าเดินทางสบายๆ ตู้เสื้อผ้าใหญ่มากให้มา 2 ตู้! ในห้องมีชากาแฟเตรียมให้บ้าง แต่…ไม่มีขนมและมะม่วงเคลือบน้ำตาล!! ฮืออออ
สรุปก็จัดว่าเป็นห้องที่อยู่สบายมากๆ ถ้าอากาศหนาวก็เปิดพัดลมแทนได้ ลืมเอา adapter ไปก็ขอยืมได้ มีน้ำเปล่าให้ราวๆ 4 ขวด และคิดว่าถ้าหมดก็น่าจะขอเพิ่มได้
/ รองเท้าแตะในห้องนิ่มมากกก (อยากขโมย) ให้มา 3 ไซส์เลยคือพ่อแม่ลูก
/ ไดร์ฟเป่าผม และกาต้มน้ำ เสียบปลั๊กไว้ให้พร้อมใช้ (ปกติกาต้มน้ำนี่กว่าจะหาที่เสียบได้มันน่าหงุดหงิดใจนะ)
/ อ่างอาบน้ำใหญ่มากกกก
/ พนักงานช่างจดจำหน้าแขก และได้รับการเทรนมาดีมาก
/ ใช้สมาร์ทโฟนคุมทุกสิ่งในห้อง ทั้งไฟ โทรศัพท์มีต่อตรงถึงผจก.ให้เสร็จ (ไม่ต้องจำเลขอีกต่อไป!) เปิดทีวี เปิดแอร์ ฯลฯ แต่เทิร์นดาวน์ยังใช้พนักงานเหมือนเดิมนะ (อย่าสิ หลอนนะ!)
ข้อเสียอย่างมีอยู่บ้างคือ
/ พนักงานบางส่วนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย (เป็นไปได้ไง?) แต่ก็ทำให้เข้าใจว่า ที่นี่เค้าเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า
พอได้คุยกับคุณโอลาฟซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนกิจกรรม ทำให้รู้ว่า การจะหาพนักงานมาทำงานใน SS นั้นค่อนข้างยาก (มิน่าเค้าถึงรับคนพูดอังกฤษไม่ได้เข้ามาทำงานด้วย) เพราะที่นี่อยู่ไกลติดดอย คนอยากไปทำงานที่โรงแรมในเมืองกันมากกว่า (ใน Chengdu รร.ค่อนข้างเยอะ) แถม Six Senses เป็นรร.ที่ไม่ค่อยดัง มาทำแล้วก็มีกฎข้อบังคับและระเบียบปฎิบัติมากมาย (เพราะมันเป็นรร 5 ดาว) ไม่น่าเชื่อนะว่าขนาด SS ก็ยังมีปัญหาเรื่องคนงาน
อยู่ที่นี่ นอกจากออกไปดูแพนด้ากับปีนเขา Qing Cheng แล้ว พวกเรานอนอืดอ่านหนังสือกันในห้อง หรือไม่ก็ออกไปเดินรอบๆ รีสอร์ต มันดูเหมือนกว้างนะ แต่จริงๆ แล้วไม่กว้างมาก กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นรอบนึง สรุปว่าวันนึงเดินมัน 3-4 รอบ (เดินมันทุกมื้อ) เพราะกินข้าวรีสอร์ตทุกมื้อ อาหารเค้าอร่อยใช้ได้
ที่ชอบที่สุดคือมี แปลงผักออร์แกนิก เหมือนเค้าทำเป็นกิจจะลักษณะมากกว่าที่อื่น มีผักหลายอย่าง เช่นคะน้า ต้นหอมยักษ์ ขาดไม่ได้คือต้นพริกเสฉวนจำนวนมาก! บางแปลงได้รับการดูแลดี บางแปลงเหมือนปล่อยรกๆ ไม่ค่อยดูแล มีเห็ดโผล่จากดินท่าทางน่ากิน และเราเพิ่งเคยเห็นดอกคึ่นช่ายเป็นครั้งแรก การเดินดูแปลงพวกนี้เทราพีมาก หยิบมือถือมาถ่ายรูปมุมเดิมซ้ำๆ (เพื่อ!) เพราะอยากมีแปลงผักแบบนี้ที่บ้านเอาซะจริงๆ จนบูบอกเอ๋น้อยเป็นเอาหนักนะ
ด้านนึงมีเล้าเป็ดไก่แบบฟรีเรจน์ เป็ดไก่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ พอตกเย็นพนักงานจะต้อนไก่เข้าเล้านอน ส่วนเป็ดนอนข้างนอก และอยู่มาวันนึงก็มีเป็ดตัวนึงพลัดหลง (หรือไม่ก็หนี) ออกมาจากเล้าของมัน และ…กลับเข้าไปไม่ได้ เราเองก็อยากรวบตัวมันแล้วโยนกลับเข้าไปให้นะ แต่กลัวเป็ดจิก…ที่สำคัญคือวิ่งตามเป็ดไม่ทัน เร็วมากไป๊!!!

ห้องอาหารใน SS
ที่นี่มีห้องอาหารทั้งหมด 3 แห่ง คืออาหารไทย / จีน / ฝรั่ง และอีกแห่งนึงคือ the Square ตรงเราไปนั่งกินน้ำวันแรก แถวนั้นมีร้านบะหมี่ ติ๋มซำ ไอศครีม เบเกอรี่พวกอาฟเตอร์นูนทีบริการ ปิดท้ายด้วย Moon Bar ซึ่งเป็นบาร์บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เวลาไปนั่งเค้าจะเอาพวก homemade beef jerky มาเป็นของแกล้ม (ม็อคเทลเค้าก็อร่อย)
อยู่ 3 วัน พวกเราไปกินร้านจีนทั้งหมด 3 หน (ฮ่าๆๆๆๆๆ) เพราะมันอร่อยนะ! เป็นอาหารจีนแบบเสฉวน เมนูหลากหลายพอจะสั่งได้ซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้าง โดยเฉพาะไก่ผัดพริกรสซาบซ่าน เห็ดสารพัดอย่างในหลากหลายเมนู (แถวนี้ใกล้เขา เลยมีเห็ดเยอะ) ผัดมะระเขาก็ขมได้จิตได้ใจ ขบเคี้ยวสะใจสุดๆ
ส่วนร้านอาหารไทย…ไม่ได้แวะไปเลย แต่มันเป็นร้านที่ฝรั่งเข้าไปนั่งกินเยอะที่สุด
ร้านฝรั่งเราเข้าไป 2 ครั้ง เป็นที่เดียวกับที่เสิร์ฟอาหารเช้าด้วย ตอนแรกไม่คิดว่าอาหารฝรั่งที่นี่จะอร่อย แต่ยอมรับเลยว่าอร่อยมากๆ โดยเฉพาะเมนูปลา คงเพราะเค้าผสมผสานอาหารฝรั่งเข้ากับรสชาติจัดจ้านของท้องถิ่น เลยทำให้พวกเราเจริญอาหารเป็นพิเศษ แถมมีเมนูแตกต่างเช่นฟรายส์คลุกเคล้าพริกเสฉวน! แครอตคลุกซอสโยเกิร์ตและพริก! คนชอบอะไรแซบๆ มานี่รับรองไม่มีคำว่าเลี่ยน แม้มันจะเผ็ดต่างจากพริกของไทยเราก็ตาม
ขณะที่ อาหารเช้า เค้ามีบริการหลากหลายสะใจ ทั้งบะหมี่เสฉวน ขนมปังสารพัดอย่าง โยเกริ์ต มูสลี่ อาหารตระกูลไข่ เบคอน ผลไม้ ติ๋มซำ เลือกไม่หวาดไม่ไหว พนักงานคอยดูแลเป็นอย่างดีทุกย่างก้าว กินแล้วอิ่มยาวไปถึงต้นบ่ายสบายๆ
สรุปว่าเป็น 3 วัน 2 คืนที่สนุกสนานดี และแนะนำสำหรับคนที่อยากไปพักผ่อนแถวนั้นเพื่อดูแพนด้า กับขึ้นเขาชิงเชง แต่เห็นเขาบอกว่าติดๆ กันก็มีรีสอร์ต 5 ดาวอีกอันนึงซึ่งเป็นของนายทุนเมืองจีนอยู่เหมือนกันนะ

