บล็อกปักกิ่ง
บล็อก 1 สถานที่เที่ยวหลัก
บล็อก 2 เดินดูบ้านเก่าฮูตง & Dashilar Design Community (บล็อกนี้)
บล็อก 3 อาหารในปักกิ่ง
ก่อนไปปักกิ่ง ภาพการเดินบ้านเก่าฮูตง (Hutong House) เป็นสิ่งที่ไม่อยู่ในสมอง กระทั่งเพื่อนสาวฮ่องกงที่ไปทำงานปักกิ่งบ่อยๆ ก็ยังไม่ค่อยจะไปเดิน (เธอถามเอ๋ว่าไปที่ไหนมา ฉันไม่เห็นคุ้นตาภาพข้างบนนี้เลย)
จะว่าไปมันก็น่าแปลก (หรือออกแนวประชดเล็กๆ) ว่าถนนและอาคารสมัยใหม่ของปักกิ่งเนี่ย ใหญ่เว่อวังอลังการงานสร้าง แหงนคอตั้งบ่าถึงจะเห็นยอดของมัน ขณะที่ฮูตงคือบ้านหลังเล็กจิ๋ว ตรอกที่เดินเข้าบ้านก็แทบจะต้องเอียงตัวเข้า แต่เราว่ามีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์กว่าเยอะเลย

Hutong House
เป็นลักษณะบ้านเก่าแก่หลายๆๆ ร้อยปี ที่แต่ก่อนมีพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองตอนเหนือของจีน โดยเฉพาะปักกิ่ง จุดเด่นคือเป็นบ้านในตรอกเล็กๆ ที่สร้างเกาะเป็นกลุ่มและเชื่อมต่อกันไปเรื่อยๆ โดยมีทางเข้าใหญ่ร่วมกัน และมีพื้นที่โล่งขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง ให้แสงเข้า และใช้งาน บ้านพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่มีห้องน้ำในตัว และเป็นแค่ห้องขนาดเล็กมากสำหรับหลับนอนเท่านั้น (บ้านใหญ่ก็พอมี แต่ไม่มาก) ห้องน้ำจะใช้รวมกันแยกอยู่ด้านนอก ดังนั้นถ้าใครไปเดินเล่นแถวนี้แล้วเห็นห้องน้ำริมทาง นั่นไม่ใช่ของสาธารณะเพื่อ นทท.นะ แต่เพื่อคนที่อาศัยอยู่แถวนั้นนั่นเอง (และกลิ่นก็สุดยอดมากๆ)
หลังจากมีการทำลายฮูตงบางส่วน เพื่อสร้างถนน 12 เลนในปักกิ่ง ก็เริ่มมีคนอนุรักษ์ฮูตงส่วนที่ยังเหลืออยู่ และมีการปรับบางส่วนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช็อปปิ้งและย่านการค้าที่คนแน่นมากๆ เหตุเพราะบ้านเหล่านี้สะท้อนถึงยุคสมัยอันเก่าแก่ หลังคาก็ยังเป็นกระเบื้องแบบโบราณมาก สไตล์การก่อสร้างก็ยังเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนถ้าไม่จำเป็น
ตอนเดินเพลินมาก เพราะลุงป้าที่อยู่แถวนี้ เขาก็ยังใช้ชีวิตของเขาไป (เช่นแกะปลาหมึกและ กินก๋วยจี๊หน้าบ้าน ซักผ้า ตากผ้า ปั่นจักรยานออกไปข้างนอก) ไม่มีใครพยายามเข้ามาเร่ขายอะไรให้เราต้องกลัว ไม่ทำท่าเบื่อคนที่มาถ่ายรูปบ้านฉัน หรือจะเรียกว่าไม่ยินดียินร้ายอะไรเลยก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี

South Lougu Lane
เป็นหนึ่งในย่านบ้านฮูตง ซึ่งตอนนี้ปรับเป็นร้านค้า แหล่งช็อป ของที่ระลึกไปเยอะแล้ว วันเราไปคนเยอะมาก ถึงกับต้องปลีกตัวออกจากถนนเส้นหลัก เพราะสู้กระแสคนไม่ไหว แม้การเดินในถนนเส้นรองซึ่งเล็กกว่าจะไม่ค่อยมีร้านรวงอะไร แต่ก็ได้เห็นบ้านเก่าแก่ และชีวิตคนแถวนี้จริงๆ เดินไปเดินมาเจอทางริมแม่น้ำซึ่งสงบและแลดูโรแมนติกดีเมื่อยามเย็น ถ้าใครมาวันที่คนน้อยก็เดินตามถนนเส้นหลักไปเรื่อยๆ เมื่อหลุดจากย่านบ้านเก่าไปแล้ว ก็จะเจอกับย่านอาหารการกินมากมาย โดยเฉพาะเคบับแพะเสียบไม้ย่างข้างทางมีเยอะจริงๆ (ข้าเจ้าขอบาย) ระหว่างร้านอาหาร ก็คือร้านเสื้อผ้า zakka ฯลฯ เดินสนุกไม่น่าเบื่อ ถ้าใครมาก็แนะนำที่นี่เพราะไม่ใช่แค่ได้ดูบ้านเก่า แต่ได้ช้อปได้กินด้วย








Dashilar Design Community
สิ่งนึงที่คิดว่าตัวเองโชคดี ก็คือไปในช่วงที่มีการจัดงานพอดี (ต้องยกเครดิตให้คุณบู ที่พาไป) เวลาปกติย่าน Dashilar มีคาเฟ่เก๋ ร้านรวงเท่ๆ อยู่จำนวนหนึ่ง จับกลุ่มเป็นพิเศษบนถนน Yangmeizhu Xiejie ขณะที่ถนนเส้นเล็กขนานกัน ก็มีนั่นนี่ซุกซ่อนอยู่ ทั้งคาเฟ่ ร้านรวงเล็กๆ แต่เหนืออื่นใดคือบ้านเรือนผู้คน ที่เค้ายังอาศัยกันอยู่จริงๆ มันเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์มาก การที่บ้านส่วนใหญ่ปลูกไม้เลื้อยประเภทฟักแฟงแตงโมไว้ด้านหน้า เพื่อไว้กินและบังไม่ให้เห็นในบ้าน กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้บริเวณนี้ดูน่ารักขึ้นอีกโขเลย
ตอนที่เราไปเป็น Design Week พอดี ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างชาวบ้านในละแวกนี้ + คาเฟ่/ร้านค้า + ศิลปิน คนทำงานคราฟท์ และ Beijing Design Week มาจัดนิทรรศการเล็กๆ จำนวนมาก เรียกว่า Design Hop ซุกซ่อนอยู่ตามบ้านหลังต่างๆ ในย่านนี้ กินพื้นที่กว้างขวางมาก โดยที่บ้านไหนมีนิทรรรศการ เค้าจะวางป้ายเหลืองๆ ไว้ด้านหน้าให้ได้รู้กัน และสิ่งที่จัดแสดงส่วนใหญ่ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับงานมือพื้นถิ่น (เช่นการแกะช้อนไม้ ทำบล็อกปริ๊น วาดรูปฯลฯ) และความรู้เกี่ยวกับบ้านฮูตงในรูปแบบงานอาร์ตต่างๆ เช่นภาพถ่าย ชิ้นงานใหญ่ๆอย่างโครงสร้างเหล็ก จำลองแบบบ้านสมัยก่อนในบ้านจริงๆ และเค้าชวนให้เราเดินไปตามตรอกเล็กๆ เพื่อเข้าบ้านด้านในๆ ด้วยการตกแต่งด้วยต้นไม้ซะสวยเชียว โอ๊ยยย…อยากบอกว่าสนุก เดินเพลินมาก! ทำให้ลึกซึ้งกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่อาศัยในฮูตงขึ้นอีกอักโขบอกเลย











































Living Room Coffee
ที่อยู่: No.23, Taner Hutong st.,
อย่างที่เกริ่นว่า เราเป็นคนแพ้ทางห้องน้ำเน่า วันๆ เลยพยายามกินน้ำแต่น้อยเพื่อให้เข้าห้องน้ำน้อยสุด แต่ร้านนี้มองๆ ผ่านแผ่นพลาสติกด้านหน้าแล้ว อยากเข้าไปกินอะไรสักอย่างบอกไม่ถูก เพรารู้สึกถูกจริต ปรากฎว่าด้านในให้ความรู้สึกดีมาก ไม่พอเจ้าของน่ารักเป็นกันเองมาก ไม่พอ…ห้องน้ำก็มีให้ใช้ และสะอาดมากกกกกกก!!!!!!! ดังนั้นไปอุดหนุนเค้ากันนะ คุณบูสั่งกาแฟเย็น เค้าก็ให้ espresso น้ำแข็งกับนมเย็นมาเทเอง สนุกมาก ส่วนเราสั่งอิตาเลียนโซดามาดื่มชุ่มคอ
ที่ร้านนี้เองเจอมนุษย์ป้า! คือเป็นผญ.วัยกลางคน 4 คนแต่งตัวดี หน้าตามีการศึกษา ใช้กระเป๋าแบรนด์ อยู่ๆ เข้ามาสั่งกาแฟแก้วเดียวแล้ว….ควักเอาเบียร์กระป๋องจากกระเป๋าตัวเองมาเปิดกินกันทุกคน!! คือไรอะ! ช็อคระบบไปเลยข้าเจ้า สงสารเจ้าของที่สุดอะจุดนี้ นี่มันคาเฟ่นะคุลไม่ใช่ร้านยาดอง! คือถ้าจะให้ปรับมารยาทกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะเริ่มระดับไหน เพราะนอกจากมนุษย์ป้า 4 คนนี้แล้ว เรายังเห็นเด็กผู้ชายหน้าตาดี แต่งตัวดี ตัวสูงโย่ง แบบมีการศึกษาแน่ๆ เดินออกจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ออกมาไม่ถึง 3 ก้าว…นางขากถุยหน้าร้าน!!!!!!!! คือไร???!!!?!?!??!?! (มาที่นี่ไม่ค่อยเดินขอบถนน เพราะคนขากถุยกันจำนวนมาก)









Farmers Market
ตอนแรกตั้งใจกินอาหารเสฉวนเล็กๆ ที่เดินผ่าน เพราะเห็นว่าเป็นร้านที่ Time Out แนะนำ แต่…ไปถึงตอนร้านปิดพอดี เลยเดินโต๋เต๋ผ่านตรงนี้ ซึ่งตอนแรกคุณบูนึกว่าเป็นโรงเจ 5555555 ปรากฎกลายเป็นตลาดออร์แกนิกแสนเริดของชาวปักกิ่งเขาค่ะ! ตลาดจัดอยู่ในละแวก Dashilar นั่นแหละ ห่างจากร้านเสฉวนไม่ถึง 50 ก้าวได้มั้ง มีผักออร์แกนิก น้ำผลไม้คั้นสด เบียร์แพนด้า อาหารปรุงสุกจำนวนหนึ่ง ขนมประเภทต่างๆ ตลาดไม่ใหญ่มากแต่ก็รู้สึกได้บรรยากาศที่สนุกดี เพราะมีดนตรีสดเล่นด้วย เราเลยฝากท้องกับเตี๋ยวยูนนานและเนื้ออบ กินกับน้ำผลไม้และเบียร์แพนด้า





ปิดท้ายบรรยากาศบ้านฮูตง และขอแนะนำเลยนะคะว่าถ้ามาให้เดินไปดู เข้าใจแหละว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในปักกิ่งเนี่ยมันมีให้เช็คอินเยอะมาก มาแค่ไม่กี่วันก็คงทำได้ไม่หมด แต่ดูของแกรนด์ๆ อลังการเว่อร์วังทุกวันมันก็เลี่ยนนะ และไม่มีที่ไหนจะทำให้คุณเห็นชีวิตชาวบ้านร้านตลาดปักกิ่งจริงๆ ได้เท่าที่นี่แล้ว (แนะนำ Dashilar มากกว่า South Lougu) ข้อมูลของ Dashilar ดูได้จากเว็บนี้แต่ช้าเต่ามากก http://www.dashilar.org/en







One thought