ใครมาฮิโรชิม่า ต้องมาเที่ยวเกาะมิยาจิม่า ซึ่งจัดว่าเป็นไฮไลท์อันดับต้นๆ
การเที่ยวเกาะ สร้างความรื่นรมย์ได้มากกว่าการไป Peace Memorial อักโข
ดังนั้นถ้าใครไปดูเศษซากระเบิดปรมานูแล้วหดหู่มา ก็ให้ขึ้นเรือไปเกาะกันนะ จะได้เบิกบาน
เรานั่งแทรมจากใกล้ๆ โรงแรม ไปท่าเรือใช้เวลาราว 40 นาที
จากนั้นต่อเรืออีกแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
สิ่งแรกที่มาต้อนรับบนเกาะมิยาจิม่า ก็คือน้องกวางทั้งหลาย
ส่วนใหญ่คุ้นเคยมนุษย์ และชอบวิ่งไล่ตามคนที่ถือขนมเพื่อขอกินกะเค้าบ้าง
บางตัวถึงขนาดใช้จมูกคุ้ยๆ ค้นๆ กระเป๋าที่คนวางทิ้งไว้บนพื้น
เด็กสาวๆ ที่กลัว(กวางจะกินขนม) วิ่งหนี แล้วกวางก็วิ่งตาม
ดังนั้นไปถึงแล้วไม่อยากให้กวางท้องเสีย ก็เก็บขนมไว้ให้มิดชิดนะ
วันที่ไปมีโรงเรียนพาเด็กน้อยมาวาดรูปกันเต็มไปหมดเลย
วันนี้ฟ้าครึ้มหม่นมาก พอไปถึงสักพักฝนเม็ดเล็กเบาก็พรูลงมาเป็นสาย
การเดินใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ (เอ๊ะ นี่มันเพลงป่ะ?) เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกแบบสงบนิ่ง
ยิ่งเดินห่างออกไปทางฝั่ง Aquarium ยิ่งรู้สึก เพราะคนน้อยกว่าแยะ
ทำให้รู้สึกเหมือนโลกทิ้งเราไว้ตรงนั้นแค่สองคน (มโนไปเรื่อย)

ด้วยความหิว พวกเราตัดสินใจแวะร้าน Hiyashi (Yakiguki no Hiyashi) เพื่อกินกลางวันเป็นสิ่งแรก
ร้านนี้ขายอาหารสารพัดเมนูที่ทำจากหอยนางรม ทั้งชุบแป้งทอด ทำข้าวอบ กินกับมายองเนส กินสด ฯลฯ มีจัดเป็นเซ็ตเมนูให้เลือก
จุดเด่นคือเค้ามีฟาร์มหอยนางรมเอง หอยตัวใหญ่ เนื้อหวาน เคี้ยวไม่เละหรือแหยะ แต่กินสดแล้วไม่เวิร์กมากแฮะ
เมนูที่เราชอบมาก (แต่ต้องสั่งแยก เพราะไม่มีในเซ็ตเมนู) ก็คือ “หอยนางรมย่าง” ย่างกันหน้าร้านนั่นเอง
ซึ่งอร่อยเด็ดแตกต่างจากที่เคยๆ กินมา เพราะเวลาเคี้ยวมีทั้งความนุ่ม และหนึบเหนียวในคำเดียว ลงตัวอ่ะ ห๊อม หอม
สิริรวมวันนั้นเราสองคน กินหอยนางรมไป 16 ตัว … เกือบแปลงร่าง ดิ่งตัวลงทะเล….
ค่าเสียหาย 6460 เยน




ความสนุกอีกอย่างของการมาเที่ยวมิยาจิม่า ก็คือการเดินดูร้านขนม ของกิน ของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ บนถนนเส้นเล็ก
ระหว่างทางไป Itsukushima Shrine เด็ดๆ คงเป็นขนมรูปใบเมเปิล (momiji) ซึ่งเป็นขนมไข่สอดไส้สารพัด
เช่นเกาลัด ครีม ชาเขียว ฯลฯ มีทั้งแบบนุ่ม และแบบชุบแป้งทอดที่เค้าจัดที่นั่งไว้ให้กินกันตรงนั้นเลย
มุมนึงมีถังชาเย็นให้กินกลั้วคอเสร็จสรรพ จำพวกชิกูวะหน้าสารพัดรูปแบบก็มีหลายร้านมาก ของฝากประเภททัพพีไม้ก็แยะ
สรุปรวมแล้วทั้งขาไปและกลับ เราได้กาแฟสดที่คั่วและบดบนเกาะ 1 แพ็ค (มีคาเฟ่เก๋ๆ อยู่ร้านเดียว สังเกตง่าย)
น้ำส้มโคบอตสึ 1 ขวด และน่าเสียดายที่ขนมนี้อายุสั้น เก็บได้ไม่นาน
เลยซื้อแค่ไส้ละ 1 ชิ้นไว้ทดลอง พบว่าไส้คัสตาร์ดครีมอร่อยสุด เกาลัดนี่แทบไม่ได้กลิ่นเลย




Itsukushima Shrine
เราไปช่วงน้ำลง เลยไม่ได้เห็นตอนเสาใหญ่อยู่กลางน้ำ และไม่ได้ลงไปใกล้ๆ เพราะฝนปรอยๆ ไม่อยากหัวเปียก
ตอนซื้อตั๋วคุณบูเธอซื้อตั๋วเข้า Treasury Hall มาด้วย เราเลยแวะเข้าไปดูชุดเกราะและดาบซามูไรกันด้านใน
จากนั้นเดินเลาะไปด้านหลัง ผ่านร้านค้าและหมู่บ้านที่ไม่ค่อยมีคน เดินไปเดินมา อ้าว…ฝนตกซู่ซ่าซะงั้น
วิ่งๆๆ หลุนๆๆ หลบเข้าไปใน Miyajima Public Aquarium กัน
Miyajima Public Aquarium
ค่าเข้าคนละ 1,400 เยน ในนี้มีปลาหลายอย่างที่เราไม่เคยเห็น
มี Finless Porpoises ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบ Inland sea ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พวกมันชอบเดาะบอลเล่นกัน น่ารักมากๆ
มีสิงโตทะเลตัวบะเลิ่ม เพนกวินฝูงโต ซึ่งมีรอบจัดแสดงให้ดูแบบใกล้ๆชิดแบบมีเอื้อมถึงอ่ะ
ไปอะแควเรียมมาก็มากนะ ที่นี่เป็นที่แรกที่่ตัดสินใจล้างมือ แล้วยื่นลงไปแตะปลากระเบน!
นึกว่าจะแข็งอ่า ปรากฏว่านุ่มยังกะกำมะหยี่ นี่สินะที่เขาว่าอย่าตัดสินอะไรก็ตามแค่จากสิ่งที่เห็น
จริงๆ ตอนแรกที่ตัดสินใจเข้าอะแควเรียมก็เพราะฝนตก (เลยไม่ได้ขึ้นเขาดูวิว) แต่กลับกลายเป็นว่าสนุกกว่าที่คิดแยะมาก
แต่ๆๆ สิ่งที่งงคือ พอดูทุกอย่างเสร็จ ทาง aquarium มีขายเมนูปลาเปิบพิสดาร! เพื่อ!???
บางอย่างเป็นปลาที่จัดแสดงด้วยอ่ะ เข้าใจนะว่าคนญป กินปลาซะส่วนใหญ่ แต่ๆๆๆ มันทำร้ายความรู้สึกักนไปไหม จะมีคนกินไหม???
ไม่กล้าโผล่หน้าเข้าไปดู >__<


ออกจากอะแควเรี่ยมฝนก็หยุดตกแล้ว เราค่อยๆ เดินกลับกันมาตามทางเดิม
แวะเติมขนมมอมจิเข้าท้อง ซื้อของฝากเพิ่มลงในกระเป๋าเป้
มองกวางดื่มน้ำจากลำธาร มองฟ้าหลัวๆ ที่ฝนทำท่าเหมือนจะฮึ่มฮั่มปรอยลงมาอีกครั้ง
บอกตัวเองว่าวันนี้สนุกจัง โดยเฉพาะการได้มากับคุณบู ^^
3 thoughts