ตอนแรกเม้งนึกว่ากวางเจาจะมีแค่ศูนย์ขายส่งสินค้าราคาไม่แพง เลยว่าจะไม่ไปแล้วค่ะ แต่ทนพี่เอ๋น้อยคะยั้นคะยอไม่ไหว เลยไปด้วยก็ด้ะ แต่ไม่รู้ไปไงมาไง ติดใจอยากกลับไปอีกหนค่าาาา ทั้งๆ ที่เที่ยวอะไรก็ไม่ค่อยมี ไม่ใช่แค่เม้งนะคะ พี่เอ๋น้อยก็เช่นกัน…กลับไปทำไมน่ะเหรอคะ?…อ่านไปเรื่อยๆ จะทราบค่ะ ทราบแล้วก็อย่าเวทนาพี่เอ๋น้อยเค้านะคะ

จากฮ่องกงนั่งรถไฟไปกวางเจา ใช้เวลาราว 2 ชม.นิดๆ รถไฟเขาดีเชียวค่ะ วิ่งเร็ว สะอาด ตรงเวลาระดับนาที เคลียร์คัสตอมอะไรง่ายดายเหมือนกะพริบตา ว่าแล้วก็มามะ ตามเม้งมากันเลยค่ะ
Ready, set, go!
วันนั้นกว่าจะถึงก็ค่ำแล้ว พี่บูชวนไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง เป็นร้านที่ค่อนข้างขึ้นชื่ออาหารอรอ่ย ทว่าจังหวะนรกค่ะ คือไปตอนพีค มนุษย์ผู้หิวโหยเต็มร้านแล้ว พวกเราเลยนั่งรอกันหน้าร้าน แต่ราว 15 นาทีก็ได้เข้าไปกิน เม้งเลยฆ่าเวลาด้วยการดูคนอื่นค่ะ ว่าเค้าทำอะไรรอกัน
ครอบครัวนี้ได้คะแนนความสร้างสรรค์ค่ะ ใช้เวลาว่างอย่างเกิดประโยชน์
ส่วนพี่บูตั้งใจดูเมนูอาหารสุดค่ะ ศึกษาประหนึ่งงานวิจัย
หน้าร้านเป็นเช่นนี้ค่ะ
ยืมมาจากไอจีพี่บูนะคะ ชื่อร้านอยู่ตรง location
เมนูผัดกะหล่ำปลีที่เห็นนี่ “อร่อยที่สุดในมื้อ!!!!”
เป็นเมนูที่เกือบพลิกชีวิตให้เม้งกลายเป็นมังสวิรัติได้เลย ถ้าได้กินทุกวันล่ะก็ มันอร่อยมากค่ะ รสกลมกล่อม หอมกะทะ เผ็ดด้วยนะ กำลังดีเลย เม้งให้ 100 ดาวค่ะจานนี้
บรรยากาศร้านสะอาดสะอ้าน ใหญ่มาก นี่ชั้น 2 นะคะ
ของเด็ดร้านนี้คือซาลาเปาอันใหญ่บึ้ม สั่งทุกโต๊ะค่ะ เราเห็นคนอื่นเขามี เม้งก็ยืนกรานค่ะว่าต้องสั่งบ้าง! มันดูน่ากินนะคะ มีไส้ข้างในหวานๆ แต่เม้งว่า…เฉยๆ กินไม่หมดด้วยค่ะ เนื้อขนมปังเหมือนนุ่มแต่เอาเข้าจริงไม่ได้นุ่มขนาดขนมปังร้านวังหลังเบเกอรี่นะคะ ดูขนาดซาลาเปาก็ใหญ่กว่าตัวเม้งแล้ว แถมจานเล็กสุดพี่เขาก็มาตั้ง 6 ลูก อาหารอื่นเราก็สั่งมาอีกตั้งหลายอย่าง พอชิมให้รู้ว่าชอบไม่ชอบแล้ว ก็เก็บแป้งไว้กินอย่างหลังสุดนะคะ
หมูแดงแบบเน้นมัน ชุ่มฉ่ำละลายในปาก สังเกตสิมีมัน 50% เลยนะคะ ของโปรดพี่บูเค้าค่ะ
ผัดอะไรก็ไม่รู้ อร่อย
เต้าหู้แสนนุ่มละมุน กับเลือด เมนูนี้คุณพี่บูชอบ
Shamian island
Note จากเอ๋น้อย:
ข้อมูลของ Shamian นี้ ถึงจะเรียกว่าเกาะ แต่ความจริงมีคลองกะจิ๋วคั่น มีสะพานเชื่อมอยู่ 2 สะพานซึ่งสมัยก่อนจะปิดตอน 4 ทุ่มนัยว่าเพื่อความปลอดภัยของคนที่อาศัยอยู่บนเกาะ
ที่นี่เป็นส่วนการปกครองที่เมืองจีนยกให้กับฝรั่งเศสและอังกฤษในศตวรรษที่ 19 สมัยนั้นฝรั่งมังค่าเวลามาเมืองจีนเรื่องธุรกิจการค้า หรือหน้าที่การงานอะไร ก็มักจะมามีบ้านพักอาศัยกันที่นี่ คือฝรั่งก็คงมองว่าเออเรารวมกลุ่มกันไว้ปลอดภัยดี แต่ทางเมืองจีนก็คงแอบคิดแบบขี้โกงนิดๆ ว่า ถ้าฉันอยากจะบึ้มพวกฝรั่งทั้งหลายล่ะก็ มาบึ้มที่นี่ทีเดียวอยู่หมัด หรือแค่ปิดสะพานไว้พวกเธอก็ไปไหนไม่รอดแล้ว ฮี่ๆๆ (มโนหนักมาก)
ดังนั้นสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็คือสถาปัตยกรรมอาคารสวยแบบฝรั่ง ที่ทางการเขาอนุรักษ์ไว้ บางส่วนเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม เค้าจัดภูมิทัศน์แถวนี้ดีงามสวยน่าเดินมากๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณคู่ควร
มาค่ะ ข้ามสะพานรักสารสินอินไชน่ากัน (มุขเก่าไป๊)
แค่ 3 วินาทีถัดมาก็ถึง Shamian island ละค่ะ
อ่านรายละเอียดและแผนที่กันสักนิดนะคะ
มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ
สวนเค้าก็สวยงาม มีระเบียบ และสะอาดมาก
อันนี้เม้งก็งงค่ะ ว่าถ่ายมาทำไม คงเพราะชอบต้นไม้ที่ขึ้นบนหน้าต่าง
บ้านเก่าแก่สวยมองเพลินค่ะ พี่บูแวะอ่านป้ายตลอดค่ะ นางชอบ
บางจุดเม้งนี่เกือบเดินตามพี่บูไม่ทันนะคะ ขาสั้นนะคะขุ่นพี่!
มีความวินเทจสไตล์จีนผสมๆ
อุ๊ย เม้งถูกขอถ่ายรูปค่ะ
ว่าแล้วก็แวะตาบักค่ะ เพราะคิดว่าห้องน้ำน่าจะสะอาดสุดแล้ว (สะอาดจิงๆ)
แอบแฝงตัวค่ะ แต่พี่เอ๋ไม่ยอมซื้อเพราะนางบอกว่าแพงไปค่ะ คนอะไรงกจัง
สตาร์บักส์สาขานี้ออกแบบดีเดิ้นมาก โทนไม้สไตล์อบอุ่นน่านั่งนานๆ แต่ดูสาวคนที่นั่งไกลๆ นั่นสิคะ ยกขาสูงมากค่ะ เม้งเห็นแล้วเสียวแทน
มีอะไรน่ารักๆ แบบนี้ให้เห็นตลอดทาง
สลับกับความน่ารักของเม้งค่ะ
สีสันสวยดี พี่เอ๋น้อยเค้าชอบ
มีร้านเก๋ๆ แล้วก็มีแผงหาบแบบนี้ค่ะ ถึงจะจีนแท้
เม้งแอบคิดว่ามันเหมือนทะเบียนปลอมนิดๆ นะคะ
อ้าวพี่บูหายไปไหนแล้ว
เมื่อข้ามสะพานอีกด้านออกมา เม้งเห็นสะพานลอยค่ะ จึงเดินข้ามไปอีกฝั่ง
บนสะพายลอยค่ะ
ลงมาเจอตลาดขายของแห้งเฉยเลยค่ะ
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราแวะดูค่ะ
ของต่างจากที่ฮ่องกงก็มีนะคะ เม้งว่ามันเป็นต้นขั้วแน่ๆ คนจากฮ่องกงต้องมารับของที่นี่ไปขายแน่ๆ เม้งมั่นใจ
เลยมองหาของที่จะซื้อค่ะ คิดว่าต้องถูกกว่า เม้งติดนิสัยพี่เอ๋มาค่ะ นางงก
เจอสิ่งนี้ค่ะ มันคือ “เห็ดมอร์เรล เมดอินไชน่า” เห็ดนี้ถ้าไปขายตามซูเปอร์จะราคาแพงชนิดที่ว่าดอกละเกือบร้อยบาทได้ แต่ที่นี่ขายถุงใหญ่ๆ แค่ไม่กีร้อยบาทค่ะ! แม้จะยังไม่แน่ใจว่ามันจะหอมหวนละมุนละไมเหมือนเมดอินฝรั่งเศสรึเปล่า แต่ราคาถูกแรงขนาดนี้ เม้งสั่งพี่เอ๋จัดมาก่อนเลยค่ะ เราไม่มีอะไรจะเสีย มาถึงจุดนี้แล้ว ปาแบงก์หยวนใส่คนขายไปรัวๆ ค่ะพี่เอ๋น้อย
Note จากเอ๋น้อย :
ตอนหลังมีโอกาสกินเห็ดมอร์เรลในร้านอาหารดีๆ แห่งนึง ก็พบว่ามีกลิ่นและเท็กซเจอร์แทบไม่ต่างจากที่เราซื้อจากตลาดนี้เลย เอาเป็นว่ามันดีงามมาก เราเอาไปต้มซุปใสบ้าง ซุปพะโล้กับเต้าหู้บ้าง ตุ๋นกับเนื้อแบบฝรั่ง หรือจะเอาไปทำพาสต้าซอสเห็ดก็สวยงามมาก เป็นเห็ดราคาประหยัดที่ได้ความอร่อยแบบไฮโซ คือคุณค่าที่ทุกคนคู่ควร จัดเลยข่ะอย่ารีรอ!
เม้งไม่อยากจะเซดนะคะ ว่าเห็ดมอร์เรลนี้เป็นอีกเหตุผลนึง ที่ทำให้พี่เอ๋น้อยเค้าอยากกลับไปกวางเจาอีก แม้พี่บูจะทัดทานว่า เออค่ารถไฟมันก็ไม่ถูกนะมันจะคุ้มเหรอเธอ แต่เดชะบุญเถียงกันไม่จบก็ต้องย้ายประเทศก่อนค่ะ เรื่องจึงปิดฉากด้วยเหตุนี้
เมื่อเห็ดเต็มกระเป๋า เราก็เดินต่อไปตามตรอกค่ะ
มีอะไรน่าสนใจแยะดีนะคะ รถนั่นก็แปล๊กแปลก
ท่าจะเอาไว้ขับตามตรอกนี่แหละ ซอกซอนดี อารมณ์ราวอยู่ในเวนิซวานิซ ที่เม้งเองก็ยังไม่เคยไป
ในกวางเจามีรถไฟฟ้านะคะ ใช้ระบบเหรียญสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อบัตรประจำ
มีผู้ใช้บริการคับคั่งทีเดียว
สิ่งนึงที่เหมือนกันทุกประเทศ คือผู้ใช้บริการรถไฟ นั่งก้มหน้าดูมือถือตัวเองอย่างพร้อมเพรียง โดยไม่จำเป็นต้องนัดหมาย
สถานีเค้าก็สะอาดดีนะคะ
มุมกว้างสักรูป จากที่พักเราในกวางเจาค่ะ แน่นขนัดดีนะคะ เม้งนึกว่าตัวเองอยู่ฮ่องกงอยู่เลยเนี่ย
ในเมื่อไปเที่ยวแค่คืนเดียว ไปเที่ยวได้เท่านี้ค่ะ
ปิดท้ายกันดื้อๆ ด้วยรูปโพสต์สวยๆ ของเม้งเองค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ หวังว่าจะชอบไกด์เม้งโชว์เดี่ยวเที่ยวกวางเจากันไม่มากก็น้อย โอกาสหน้าฟ้าใหม่ถ้าพี่เอ๋ไม่ขี้เกียจ เม้งก็จะกลับมาเป็นไกด์ให้ใหม่นะคะ บัยยยยยยย์