Aenoi:
ฉันจงใจทำหน้าให้เหมือนเดิมย่ะ! (แต่ลืมแลบลิ้น) ไม่เห็นเหรอขนาดบูยังร่วมมือ ทำปากจู๋ไม่พอ หันหน้าตุ๊กตาไปทางเดียวกะเธอด้วย
นั่นแหละ…ที่ฉันเขียนว่า “อิเกียบางนา” กับ “ไอเกียบรู้คลิน” นี่ไม่ได้เขียนผิดนะแก
คนเมกันเรียกมันว่า “ไอเกีย”(บูสงสัยขนาดเปิดคลิปอิเกียสวีเดนฟัง ว่าเจ้าของห้างฯ เขาออกเสียงยังไงแน่…ก็ “อิเกีย” นั่นแหละแก) ตัว i ของพี่เมกันยังไม่จบแค่นั้น อย่างคำว่า “คาโมมายล์” เขาพูดว่า “คาโมมิลล์” ได้ยินครั้งแรกนี่ฉันเหวอไปเลย (ว่าตูพูดผิดมาตลอดเหรอฟระ บูบอกอเมริกัน-อังกฤษ ใช้ไม่เหมือนกัน) หรือคำว่า “พัสดุไปรษณีย์” ซึ่งปกติจะติดคำว่า Parcel พี่แกกลับเรียก Package นี่แหละสมัยเรียนครูให้ท่องศัพท์คำอังกฤษ-เมกัน ดันเลือกท่องแค่ฝั่งเดียว สมน้ำหน้ามันนัก!
อย่างนึงที่ “ไอเกีย” เมกาทำให้ฉันแปลกใจ ก็คือถ้าเป็นสินค้าเดียวกันแล้ว…ราคาพี่เขาถูกสุด! ตอนแรกไม่อยากเชื่อสายตา นี่ฉันบ้า (หรือว่างมาก?) ขนาดเช็คราคาของฮ่องกงด้วยนะ สรุปว่าฮ่องกงก็ยังแพงกว่าของเมกา (และไทยด้วยจึ๋งนึง) น่าแปลกมะที่ของบางอย่างก็ผลิตในไทยแท้ๆ แต่เอาเป็นว่าราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นนิดหน่อย จะพอปลอบใจกับการต้องจ่ายค่าอาหารมื้อละ $15 (ราว 520 บาท) ของที่นี่ได้บ้าง

ข้อดีอีกอย่างของไอเกียเมกา คือเราสามารถสั่งของจากเว็บอิเกียออนไลน์ให้ส่งบ้านได้เลยโดยไม่ต้องถ่อไปอิเกียเอง แต่ความประหลาดคือว่า ถ้าสั่งจากบ้าน ระบบจะคิดค่าส่ง $199 ขณะที่ถ้าฉันเอาลิสต์ของที่ต้องการไปยื่นให้พนักงานอิเกียคีย์ที่ร้านเขาเลย ค่าส่งจะเหลือแค่ $99 ทั้งที่ของเท่ากันเด๊ะ!
แกคิดว่าฉันจะถ่อไปป้ะล่ะ เพื่อประหยัดเงิน $100 เหรียญน่ะ?
ไปดิ้!!! (เรตตอนนี้ 34 กว่าเลยนะ!)
คำว่า “ถ่อ” นี่ไม่ใช่การใช้คำเกินกว่าเหตุนะ รู้ๆ กันอยู่ว่าอิเกียชอบไปตั้งอยู่ที่ไกลแสนไกล (ถึงไปตั้งใกล้บ้านแกได้ไง ฮ่าๆๆ) เพราะเขาต้องใช้สเปซแยะ ที่นิวยอร์กไอเกียมี 2 ที่คือนิวเจอร์ซีย์ กะ บรู้คลิน สาขาหลังใกล้บ้านฉันมากกว่าก็เลือกไปอันนั้น ตอนแรกพอรู้จากบูว่าถ้านั่งรถไฟต้องต่อรถบัสอีก นั่งเรือไปจะดีกว่า ฉันนี่ก็แอบอึงๆ เพราะรู้สึกมันลำบากไงไม่รู้ แต่เชื่อป้ะ…มันหนุกมากๆ เหมือนนั่งเรือดูวิวอะ ฉันล่ะอยากแนะนำให้คนมากันจริงๆ ไม่ได้มาซื้อของอิเกียนะ แต่มานั่งเรือฟรีดูวิวแก๊!!
นอกจากรถบัสฟรีแล้ว ไอเกียที่นี่มี Water Taxi ลำสีเหลืองๆ คอยรับส่งลูกค้าจาก Pier 11 ย่าน Financial District ของแมนฮัตตัน วันธรรมดาเหมือนเขาจะคิดค่าบริการคนละ $5 แต่ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ ฟรีตลอด ตารางเรือก็ค่อนข้างเป๊ะระดับนาที ฉันแปะรูปวันเวลาเอาไว้ให้ดูด้วยนะเผื่อเธอจะพาขอบฟ้ามานั่งเรือเล่น แต่ต่อแถวให้ถูกล่ะ เพราะเพียร์นี้มีเรือมาเทียบหลายลำอยู่เหมือนกัน สังเกตง่ายว่าถ้าเดินเข้าเพียร์จะอยู่ซ้ายมือคิวแรกเลย ฉันเห็นคนปั่นจักรยานมาจอดตรงหน้าเพียร์ แล้วขึ้นเรือไปไอเกียก็มีมาก
จาก Pier 11 เรือจะลอยลำไปจอดที่ไอเกียก่อน สถานีถัดไปคือย่าน Red Hook (ซึ่งเป็นย่านที่มีอะไร ในความไม่ค่อยมีอะไร และฉันกะบูก็ชอบพอควรเลยละ แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ) จากนั้นค่อยวกกลับมา Pier 11 ขานึงใช้เวลาราว 15 นาที ความสนุกคือการได้เห็นวิวสวยๆ เห็นตึกระฟ้าบนแมนฮัตตันเรียงกันเป็นตับๆ แถมเห็นเกาะ Governor ที่มีบ้านอิฐแดงแสนสวยตั้งอยู่ท่ามกลางแลนด์สเคปแสนเก๋แบบฟรีๆ (เค้าจัดงานแจ๊สวินเทจกันบนเกาะนี้ด้วย) และแน่นอนว่าจะได้เห็น Statue of liberty ด้วยแม้จะในระยะไกล ดูรูปกะคลิปนี่ก่อนเป็นไงๆๆ มีเรือใบด้วยนะแก๊
ครั้งนึงฉันกลับเรือรอบค่ำมาก เลยไต่บันไดตามฝรั่งขึ้นไปกินลมที่ดาดฟ้าเรือ โอยแก….บรรยากาศโรแมนติกมาก (แม้จะอยู่กับมนุษย์เกือบร้อยคนแต่อย่าได้แคร์ จับมือบูซบกันไป) คือจะเห็นอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงมุมด้าน lady liberty มีฉากหลังเป็นสกายสเครปเปอร์บนแมนฮัตตัน แบบสวยๆ เลย



ความสนุกอีกอย่างของการนั่งเรือขากลับจากไอเกีย คือจะได้เห็นคนหอบของชิ้นใหญ่ๆ อย่างชิ้นส่วนของโต๊ะ ตู้ หรือลิ้นชัก 3 ชั้นพะรุงพะรังกลับบ้าน มีคนหอบของใหญ่บึ้มๆ มากันหลายคน ก็เป็นบรรยากาศที่สนุกดีนะแก

เมาท์มอยหอยสังข์ยาวเลย เพราะฉันเห็นตุ๊กตาอิเกียทีไรจะนึกถึงแกทุกครั้ง เพราะเราชอบลักลอบถ่ายรูปกันที่โซนตุ๊กตาประจ๊ำ เออ แต่สั่งของอิเกียรอบนี้ ฉันต้องต่อเตียงกะตู้เองอ่ะแก เพราะปกติเค้ามักคิดค่าประกอบแค่ 10% ของราคาสินค้าช่า (เช่นเตียงหมื่นห้า ก็คิดค่าต่อ 1,500 บาท) แต่ที่นี่คิดตามอัตราขั้นบันได ฉันคำนวนแล้วว่าแค่ค่าต่อเตียงอย่างเดียวพี่เขาจัดไปเกือบ 6 พันบาท! (ฉันเพิ่งเอากระโปรงไปตัดชายขึ้น 3 นิ้ว เจอค่าตัดไป 800 บาท!! มาขายแรงงานประเทศนี้ซะดีมะ!) ดังนั้นถ้าต่อตู้ทั้งหมดที่ฉันสั่งมาก็อาจจะปาเข้าไปเป็นหมื่นๆ ฉันเลยกัดฟันบอกบูว่า เรามาต่อเตียงแทนการออกกำลังกันสักวันสองวันเหอะเนาะ เอาเป็นว่าถ้าอาทิตย์หน้าได้ข่าวว่าเอวฉันเดาะ เธอก็คงพอรู้นะว่าเพราะอะไร