Tiny Home เชียงใหม่

73a6d74f_original

บล็อกนี้ขอนำเสนอที่พักในเชียงใหม่ ที่เพิ่งเปิดมาได้ราวๆ 1 ปี เป็นห้องขนาดเล็กๆ ที่อัดแน่นด้วยของตกแต่ง ของสะสมจากทั่วโลกที่เราค่อยๆ ซื้อสั่งสมระหว่างการเดินทางติดต่อกันมาหลายปี เช่นวอลล์เปเปอร์ลายดอกเหลืองของ Orla Kiely …ที่ตอนซื้อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้เอาไปติดที่ไหน แต่เห็นลายแล้วต่อมอยากได้ทำงานหนักมาก (บวกกับราคาเซล) เลยซื้อไว้ก่อน เช่นเดียวกับผ้าพาดโซฟาจากอินเดียนั่น ตอนเห็นก็แค่รู้สึกว่าชอบแต่ไม่รู้จะใช้ตรงไหน สุดท้ายก็ได้มาใช้ที่นี่ (เย้!)

ใครดูรูปแล้วสนใจเข้าพัก หรือจะกรุณาประชาสัมพันธ์ต่อให้เพื่อนๆ คลิกดูรายละเอียดและจองได้ที่เฟสบุ๊กนี้นะคะ FB:tiny.home.cm

 

จุดเริ่มต้น

จุดเริ่มต้นของห้องนี้ เกิดจากการที่เราและคุณบู ไปเที่ยวเชียงใหม่ทุกสิ้นปีติดกัน 6 ปีไม่มีเว้น จนวันนึงเราก็คิดกันขึ้นมาได้ (ซะที) ว่าหาไว้เองซักห้องดีมั้ย เอาคอนโดนี่แหละเพราะเราไม่ค่อยอยู่ ดูแลง่ายกว่าบ้านที่มีอาณาบริเวณให้ต้องคอยกังวล จะได้ไม่ต้องพยายามหาที่พักโดยเฉพาะช่วงหน้าไฮอย่างเดือนธันวา อยากมาเมื่อไรก็มาได้…

เพื่อนคู่คิดในการหาของเราคือศรีฮุ้ง ที่ขับรถตระเวนไปดูที่นั่นที่นี่ สุดท้ายมาพบห้องนี้โดยบังเอิญ (เซลส์ขายหลายโครงการมาก เลยโทร.มาเรียกให้ไปดู) เพื่อความแน่ใจเราถึงกับเชิญเพื่อนสาวในเชียงใหม่ไปช่วยดูและคอนเฟิร์มว่าดี เหมาะสมกับราคาที่เขาเซลลงมาเพือปิดโครงการ (น้องเซลส์เขาว่างั้น)

ตอนไปดูห้อง นอกหน้าต่าง มองออกไปเห็นวิวดอยสุเทพงามตา (มีหม้อแปลงบังบ้าง แต่มองข้ามๆ ไป) อากาศตอนเช้าและกลางคืนดีงามมาก เย็นสบายได้ยินเสียงจิ้งหรีดเรไรระงม หลายครั้งที่เราไปค้างแทบไม่ต้องเปิดแอร์นอน  แม้อีกไม่กี่เดือนต่อมา…จะมีคอนโดของโครงการอื่นสร้างขึ้นมาบังวิวดอยสุเทพไปบ้าง (มิน่า…ห้องนี้มันถึงเซล!!!) แต่อากาศยังเย็นสบาย จิ้งหรีดเรไรยังร้องหริ่ง แม้ตัวคอนโดของอีกโครงการ จะห่างกันแค่ถนนเส้นเล็กๆ กั้น แต่ความเป็นคอนโด low rise แค่ 8 ชั้น มันทำอะไรเราไม่ได้มากหรอก (รีบคุ้ยหาเทปสวยๆ มาติดบังประตูกระจกตรงห้องครัวรัวๆ)

 

ตกแต่งห้อง

พอซื้อและโอนเสร็จเรียบร้อย สิ่งแรกที่เราทำคือติดม่านและวอลเปเปอร์ ได้ช่างจากที่น้องเซลส์ให้เบอร์มา ส่วนผ้าม่านลายกิงแฮมสีแดงและผ้ากรองแสงลายจุดมาจากอิเกีย ด้วยความช่วยเหลือของนร.พอ ที่บังเอิญบ้านอยู่ใกล้แถวนั้น เลยโดนพวกเราไหว้วานให้ไปซื้อและส่งปณ.ขึ้นมาให้ถึงเชียงใหม่ ขอบคุณพอมากมายมา ณ ที่นี้นะจ๊ะ

จำได้ว่าช่วงนั้นบินไป-กลับเชียงใหม่ทุก 3 เดือนราวสัก 2-3 หน เพราะใช้เวลาในการหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อยู่พักนึง เฟอร์ฯส่วนใหญ่ได้มาจากกรุงเทพฯ เราชอบทรงโต๊ะกาแฟของ skogg ไอเดียหน้าท้อปเป็นกระจกมองเห็นของด้านล่างได้ ก็ตัดสินใจสั่งมาทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเฟอร์ฯที่เหลือจะออกมารูปแบบไหน เก้าอี้ 2 ตัวริมผนังได้มาจากจตุจักรแบบไม่ตั้งใจ ส่วนโซฟา 2 ที่นั่งเป็นของมือ 2 ที่มาในสภาพเกือบดูไม่จืด แต่ด้วยความที่ชอบทรงและขนาดกะทัดรัดของมัน ก็เอาวะ…น่าจะหาช่างขัดไม้เคลือบสีใหม่ได้ ส่วนเบาะทำใหม่ด้วยช่างฝีมือชาวเหนือที่เลิศเลอไม่แพ้จังหวัดใด ในเวลาอันรวดเร็วแท้ว่า ของทั้งหมดที่กล่าวมา ทางร้านเขามีบริการส่งจากกรุงเทพฯขึ้นเชียงใหม่แบบถึงประตูบ้านทางนิมเอกซเพรส โดยที่เราไม่ต้องแบกให้ไหล่ร้าวแต่อย่างใด สะดวกดีแท้ (ยกเว้นโซฟา ที่ส่งทางไปรษณีย์ต้องไปรับเอง แอ้ก!)

เฟอร์นิเจอร์สีขาว และกรอบเตียงติดมากับห้อง เรามอบโซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะกาแฟให้กับเพื่อนสาวที่มาช่วยดูห้องไป (บ้านนางหลังใหญ่มาก มีที่ให้วางแยะ) ตอนแรกกะพังชั้นวางทีวี แล้วเอาตู้มาวางแทน เพราะตั้งใจไม่ให้มีทีวีอยู่แล้ว ปรากฏดันติดวอลเปเปอร์ก่อน รื้อแล้วต้องทำผนังเพิ่ม พื้นก็ต้องทำเพิ่มเหมือนกัน คะเนดูแล้วท่าจะงานใหญ่ เราขี้เกียจรอเลยปล่อยให้มันเดิมๆ แบบนั้น

เฟอร์นิเจอร์อีกส่วนเช่นโต๊ะข้างหัวเตียง โคมไฟข้างเตียงและบนเพดาน ราวตากผ้าและอีกหลายชิ้นได้มาจากอิเกีย…ที่อิฉันซื้อเสร็จ ก็ยืนแพ็คอยู่ที่ร้านนั่นแหละ แพ็คเสร็จหอบ(ตัวคนเดี๊ยวว) ขึ้นรถแท็กซี่ (คือบ้านนี้ไม่มีรถใช้เลยแม้แต่คันเดียว) ของงิเยอะเบียดจนแทบไม่มีที่นั่ง แล้วตรงดิ่งไปที่สยามเฟิร์สให้เขาจับยัดใต้ท้องรถทัวร์ขึ้นเหนือทันที…อา การแต่งบ้านถือเป็นกิจกรรมใช้แรงงานขั้นเทพ เฟอร์นิเจอร์อิเกียทั้งหมดนี้ ได้คุณบูมานั่งประกอบให้ในช่วงวันหยุดปีใหม่ ใช้เวลาค่อนวัน (ใช้แรงงานกันทั้งสามีพันยา)

ส่วนตู้ชำ โต๊ะกินข้าว โต๊ะหนังสือ และอื่นๆ ที่เหลือ วัดขนาดแล้วให้ศรีฮุ้งพาไปสั่งทำที่ร้านไม้มือสอง ไม่พอยังเอาโซฟา 2 ที่นั่งไปให้ร้านเขาช่วยขัดเงาลงเคลือบให้อีก จำได้ว่าตอนตู้ชำเสร็จเราไม่อยู่ ก็ได้ศรีฮุ้งอยู่คอยรับและจัดวางในห้องให้ ศรีบอกว่า “มันหนักมากเอ๋น้อย” 55555

ส่วนงานเจาะผนังติดตู้ โคมไฟ มุ้งลวดและบานประตูเลื่อนในห้องน้ำ ได้ร้านวินัยอลูมิเนียมมาดูแลให้ทุกสิ่งอย่าง (ร้านคุณแม่ของศรีฮุ้งเองค่ะ ใครต้องการทำกรอบหน้าต่าง งานอลูมิเนียม ตู้ต่างๆ ขอเชิญติดต่อได้ งานเนี้ยบนิ้ง คุณภาพดีงาม ราคามิตรภาพ)

ช่วงเลือกซื้อของเป็นอะไรที่เหนื่อยแต่ก็สนุกมาก

DSC07933

 

กระเบื้องในห้อง

กระเบื้องลายดอกในห้องน้ำเราสั่งทำ ใช้เวลารอเป็นเดือน เพราะตอนนั้นลายนี้ยังไม่ป๊อบ (ตอนนี้ล่ะแยะเชอ) พอทำเสร็จพนักงานดันลืมบอกเราให้โอนเงินส่วนที่เหลือ (เราก็ลืม) เลยยิ่งทำให้เวลาช้าขึ้นไปอีก แต่เขาก็มีบริการส่งถึงบ้านที่เชียงใหม่…อย่างน้อยก็ไม่ต้องแบกเอง เพราะกระเบื้องกล่องเล็กๆ นี่หนักเท่าแบกช้างทั้งตัวเลยนะ ส่วนกระเบื้องผนังครัวลายขาวดำและกระเบืองพื้นตรงระเบียง เราไปยืนมุ้งมิ้งเลือกกับฮุ้งอยู่พักใหญ่ กว่าจะตัดสินใจเป็น 2 ลายนี้ได้ก็นานโข

ด้วยความที่ไม่ค่อยชอบโทนกระเบื้องห้องน้ำ ตอนแรกเลยกะปูกระเบื้องห้องน้ำใหม่ทั้งหมด ด้วยการใช้วิธีปูทับกระเบื้องเก่าไปเลย (เป็นวิธีที่เราก็เพิ่งรู้นี่และ) แม้กลัวว่าปูแล้วมันจะทำให้พื้นสูง โถส้วมต่ำ หรือเกิดขอบเหลี่ยมบาดเรารึเปล่า พอเรียกช่างชาวเหนือมาดูแล้วเขาก็บอกว่า “ทำได้คั้บๆ” เลยนัดกันทำ ทว่าพอมาถึงหน้างานจริง…”มันทำไม่ได้นะครับ เพราะ @#$%$%^”  อ่ะค่ะๆๆ พี่ช่าง เอาที่สบายใจเลยนะคะ ถึงจุดนี้แล้ว…

จากนั้น…ช่าง 2 คน กับเจ้าของห้องคนนึง ก็แยกย้ายไปคนละมุม คนนึงปูในห้องน้ำ อีกคนปูครัวกับระเบียง ส่วนเรานั่งเคาะๆ งานอยู่บนโต๊ะในห้อง สักพัก…ช่างปูห้องน้ำมาบอกว่า “คือปูผิดครับ ต้องเลาะใหม่หมด มันควรจะปูอีกด้านก่อนมากกว่า” อ่าม…ค่ะพี่ เอาที่สบายใจเลยนะคะ สรุปว่าพี่เคยปูมาแล้วจริงๆ ใช่มั้ย 55555 (คือเคืองไปก็ขำไปอะเนาะ) ส่วนน้องที่ปูครัวกับระเบียงนี่ท่าทางวัยรุ่นดูไม่น่าเชื่อถือ แต่กลับปูสวยงามแถมเร็วไวมาก วันนั้นนั่งเฝ้าห้องเกือบทั้งวัน แต่ก็ได้กระเบื้องสวยๆ สมใจ : )

 

 

ของใช้ในห้องทั้งหลาย

ยอมรับว่า…เราไม่ได้ตั้งงบสำหรับการตกแต่งและซื้อของใช้ในห้องพักเลย คิดอย่างเดียวว่าจะซื้อของที่เราพอใจใช้ในบ้านหลังที่ 2 ไม่ได้เลือกแต่ของถูกดะเพราะเห็นว่าจะปล่อยห้องให้เช่าในภายหลัง กระทั่งไมโครเวฟเรายังคิดเยอะ (ต้องสวย 555) ทั้งที่เป็นคนไม่ใช้ไมโครเวฟ (บ้านไม่มี) มาเกือบสิบปีแล้ว แต่เห็นว่ามันสะดวกสำหรับเวลาซื้ออาหารมาแช่ตู้ แล้วอุ่นกินเวลาหิวๆ เตาไฟฟ้าพร้อมกะทะฉันก็มีให้ ใครอยากใช้ก็แค่หยิบออกมา กาน้ำต้องมี เตาติ๊งฉันต้องซื้อเพราะใช้ปิ้งขนมปังชิ้นใหญ่ๆ พิซซ่าและเบเกิลได้ด้วย

ลำโพง JBL คือสิ่งแรกที่เราซื้อจากกรุงเทพฯขึ้นไป ใช้เปิดฟังระหว่างทำและตกแต่งห้องตลอด ส่วนเครื่องไฟฟ้าที่เหลือทั้งหมดได้มาจากร้านรวงในเชียงใหม่ และใช่ค่ะ…ห้องนี้ไม่มีทีวีนะคะ!!

โชคดีที่ทางคอนโดไม่ได้มีฟูกมาให้ เราไปหาจากเซ็นฯเฟส เลือกฟูกที่ดีที่สุดที่มีในสต็อกพร้อมส่ง เลือกผ้านวมที่พนักงานเชียร์ว่าดีที่สุดห่มได้ทั้งร้อนและเย็น เลือกผ้าปูที่นอนแบบเน้นว่าต้องเนื้อนุ่มนอนสบาย (แต่ปลอกผ้านวมขอลายสวยๆ นะ เนื้อหยาบหน่อยเค้ายอม มันอดใจไม่ได้จีๆ – -“) หมอนมุ้งอะไรก็ทดสอบนอนกันที่ร้านกับฮุ้งสองคน ประหนึ่งคู่แต่งงานใหม่ก็ไม่ปาน

แน่ล่ะ…จานชามมากมีที่ตุนไว้ใช้ เป็นของสะสมบ้าง ซื้อใหม่จากร้านในเชียงใหม่บ้าง และโชคดีช่วงปีใหม่ 2014 เราไปหาฟิล์มที่อุทัยธานี ฟิล์มก็พาไปคุ้ยของเด็ดๆ ที่โกดังญี่ปุ่นมือ 2 มาสนุกมากๆๆๆๆๆๆ (ไปค้างบ้านฟิล์มอีกต่างหาก 555 ขอบคุณมากๆ สำหรับการต้อนรับขับสู้อันดีงาม อาหารแสนอร่อย) ที่เห็นชัดๆ คือลังพลาสติกใส่ขวดน้ำที่วางอยู่บนตู้เย็นนั่น ก็ได้มาจากตอนไปกับฟิล์ม

ช่วงเวลาทั้งหมดนี้ถ้านับจากวันแรกที่โอนห้อง กินเวลาราว 6 เดือนได้ กว่าห้องจะพร้อมเปิดให้แขกเข้าอยู่ ระหว่างทางก็มีปัญหาให้แก้ เช่นท่อน้ำตัน ประตูตกราง น้ำรั่ว จ่ายค่าประปา ซ่อมสี ท่อแอร์ตัน ปลั๊กหลุด ฯลฯ

 

แขกคนแรก

ตอนเริ่มเปิดใหม่ๆ แทบไม่มีใครติดต่อมาเลย บนเฟสมีคนรู้จักจากเพจของพวกเราถามมาบ้างประปราย แต่ก็นับได้ว่าน้อยมากๆ และเป็นการจองล่วงหน้าหลายเดือน

บน airbnb ที่เราไปโพสต์ทิ้งไว้ก็ไม่มีผู้ใดสนใจใยดี เงียบเหงาเห่าดงจนแอบท้อเล็กๆ (ทั้งที่ใจนึงก็แอบห่วง ว่าถ้ามีคนมาพักของจะหายเปล่าน้า)

และแล้ววันนึง ก็มีข้อความเตือนให้รู้ว่า มีคนจองห้องคุณที่ airbnb แล้วนะ (เย้!)
แต่เธอผู้คนั้น…เป็นคนจีน (ห๊ะ!!)
จีนชนิดที่…สื่อสารภาษาอังกฤษเกือบไม่รู้เรื่องเสียด้วย (อา…)

ทำไงดีล่ะ…แค่คิดก็กลัวแล้ว…จำได้ว่าตอนนั้นปรึกษากับฮุ้งหนักมาก เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา ฮุ้งเจอคนจีนแย่ๆ เยอะซะจนไม่เหลือศรัทธา แต่เค้าจองมาแล้วนี่ ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลยแหละ ระหว่างนั้นก็ปลอบกันไป ภาวนากันไป ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฮุ้งรีบเข้าไปตรวจห้องทันทีที่เค้าเช็คเอาต์ สิ่งแรกที่ดูคือข้าวของจุกจิกทั้งหลาย…ไม่หาย! สภาพห้องสะอาดกว่าที่คิดไว้มาก ที่สำคัญ…เค้าทิ้งตุ๊กตาหมีแพนด้าพร้อมโน้ตเล็กๆ ไว้เป็นของที่ระลึกให้เราด้วย!!!!

อยากบอกว่า…สิ่งนี้เกินคาดหมายมาก จะเรียกว่าเป็นปาฏิหารย์ในความคิดเราก็ได้ ฟ้าส่งเธอผู้นี้มากู้ศรัทธาในตัวคนจีนให้พวกเราเห็นใช่ไหม และแพนด้าตัวนั้นเหมือนเป็นแม่ทัพ…ที่นำทีมคนจีนให้จองห้องพักเราเข้ามาเนืองๆ ไม่หยุดเลย

 

ลูกค้าผู้น่ารัก

อย่างที่บอก ว่าแพนด้าตัวน้อยคือแม่ทัพนางกวัก ที่คอยเรียกนักท่องเที่ยวชาวจีนให้จองมาพักที่ไทนี่โฮม จะบอกว่า 90%ของแขกคือคนจีนก็ได้ ที่เหลือ 5% คือคนไทย ส่วนอีก 5% จะหลงมาเป็นชาติต่างๆ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่แปลก เพราะคนไทยมีทางเลือกในการพักเยอะมาก ถ้าบอกว่าห้องพักในเชียงใหม่มีเป็นแสนล้านห้องนี่เราก็เชื่อนะ ไทนี่โฮมไม่น่าจะติดอยู่ในลิสต์หรือในความคิดของใครด้วยซ้ำ นอกจากคนที่เคยติดตามกันมาทางเพจ

เพื่อนสาวคนนึงเคยบอกว่า มนุษย์เราจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้าหาตัว พวกเราเลยดีใจมากที่ถึงลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน แต่เป็นจีนที่น่ารักแทบทั้งนั้น พวกเขามาเพราะชอบห้องเราจริงๆ บางช่วงที่คนจองแน่นๆ มีวันว่างแค่ 2 คืนเขาก็ยังจองเข้ามา แล้วบอกว่า “ที่เหลือฉันพักในเมืองเอาก็ได้ ฉันอยากพักห้องเธอจริงๆ” โห…ฟังแล้วมันชื่นใจอะ รู้สึกว่า 6 เดือนที่หมกมุ่นอยู่กับมันมา มีคนชื่นชมสนใจและมีความสุขที่ได้มาพักที่นี่

IMG_1845
คู่เพื่อนสาวจีน ที่เธอส่งรูปมาให้ดู ว่าชอบห้องมากๆ

จีนเกรียนๆ

ส่วนใหญ่คนจีนที่มาพักไทนี่โฮม มักเป็นคนดีน่ายกย่องเทิดทูน แต่พวกเกรียนๆ น่า#$%%^*@! ก็มีให้เห็นประปราย เหมือนฟ้าส่งคนเหล่านี้มาเตือนสติเราว่า “จงอยู่กับความจริง” อย่าเหลิงไปกับคนจีนจำนวนน้อยที่มาพักบ้านเจ้ามากเกินไป

เคสนึงเป็นคนจีนคู่รัก ที่ไม่รักความสะอาดเลย คำว่า “อึ้งกิมกี่” คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮุ้งตอนเปิดเข้าไปดูหลังเค้าเช็คเอาต์ เพราะทุกพื้นผิวบนพื้น ถูกปกคลุมด้วยขยะประเภทต่างๆ เช่นถุงช้อปปิ้ง ผ้าเช็ดตัวใช้แล้ว หมอนอิง กระดาษ ฯลฯ จนแทบไม่เหลือทางเดิน บนโต๊ะมีมาม่าคัพที่กินไปได้ครึ่งทางวางทิ้งไว้ข้างๆ แครกเกอร์ที่เปิดซองกินไปครึ่งเดียวเช่นกัน จานชามช้อนแก้วใช้แล้ว ถูกทิ้งกองพะเนินอยู่ในอ่างล้างจาน (สมไหม! อยากมีจานเยอะดีนัก!) ห้องน้ำไม่ต้องเซ่ด…เรียกได้ว่านั่นคือเคส ห.ย.น.ขั้นสูงสุด (หายนะ) ทำเอาฮุ้งแหยงคนจีนไปพักนึงเลยทีเดียว…อะไรไม่ว่าเมื่อเธอผู้นี้บอกว่า “ฉันเลิฟห้องนี้มากๆ ขอบคุณที่ต้อนรับอย่างดี” พวกเราปิดท้ายด้วยการโปรยเกลือหน้าห้อง หวังว่าจะไม่เกิดกรณีแบบนี้อีก สาธุ

อีกเคสนึงคือคนจีนที่มาพักแค่คืนเดียว ก่อนมาเธอมีคำถามล้านแปดในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น “ขอที่อยู่ฉันตอนนี้เลย” (ฉันส่งไฟล์รายละเอียดให้เธอหมดแล้ว รวมถึงที่อยู่) พอเราไม่ตอบสัก 3 นาทีเธอก็บอกว่า “ขอตอนนี้เลย ฉันจะใช้เดี๋ยวนี้” นั่นแหละคือจุดสติขาด…เพราะตอนนั้นฉันก็ไม่ได้อยู่ในสภาพจะส่งข้อความหาใครได้ (โว้ย!)

อะไรไม่เท่าพอฮุ้งไปตรวจห้อง พบโดยบังเอิญว่าเธอหยิบของติดมือไปด้วย…คือสารภาพนะว่าหลังๆ พวกเราไม่ค่อยเช็คของจุกจิกทั้งหลายหรอก ออกแนวเชื่อใจคนพักว่าน่ารักไว้ใจได้ ปรากฎศรีพบว่าเสบียงหายไปจากตู้ที่ “ล็อคไว้” รวมถึงปฎิทินมูมินที่เก็บไว้รวมกันด้วย นั่นแหละค้าาาา ถึงรู้ว่านางค้นลูกกุญแจจากซอกลึกในสุดของลิ้นชักออกมาไขเล่น พอเปิดดูเห็นเสบียงในตู้ที่เราซื้อไว้คราวละเยอะๆ ก็กวาดของกินออกมาเกือบหมด (ที่เหลือทิ้งไว้คงเพราะเธอไม่ชอบ) ศรีโทร.ไปตามเธอไม่รับสาย เราเลยเมลไปถามว่าเธอได้เอาปฏิทินมูมินไปไหม (โชคดีที่คืนถัดมา เธอยังพักในเชียงใหม่) และคำตอบที่ได้ก็คือ “อ้าว…นึกว่าของฟรี”…ปึด…(เสียงสติขาด)

ตอนแรกเธออิดออดว่าขอซื้อเพราะชอบมันมาก และขี้เกียจนั่งรถเอากลับมาคืน เราเลยบอกว่านั่นฉันซื้อมาจากญี่ปุ่นคงขายให้เธอไม่ได้ ที่สำคัญเธอหยิบมันมาจากตู้ที่ล็อกไว้ คงรู้ใช่ไหมว่ามันไม่ควร ฉันเขียนไว้ในระเบียบห้องพักแล้วว่า ของใช้ในห้องเท่าไรก็ได้แต่ห้ามเอาออกนอกห้องเด็ดขาด นี่เธอไม่เคารพกฎรู้ไหม ยังไงช่วยเอากลับมาคืนพรุ่งนี้ด้วยนะ (โว้ย) …บทสรุปเรื่องนี้คือเธอเอาของกลับมาคืนค่ะ ไม่ใช่แค่ปฏิทินมูมินนะ…มีกิ๊บที่อยู่ในโหลบนโต๊ะกินข้าวมาคืนด้วย เอาเถอะยังดี ที่เธอไม่ขาดการติดต่อและเอาของมาคืนตามสัญญา อย่างน้อยก็ไม่แย่นะว่าไหม

อีกเคสนางเขียนโต๊ะหนังสืออิฉันค่า T^T เขียนเป็นภาษาจีนอะไรไม่รู้ เราถึงกับเมลตามหลังไป เผื่อนางจะได้สติรู้ผิดชอบชั่วดีขึ้นมาบ้าง “เธอเขียนโต๊ะหนังสือฉันใช่มั้ย ที่บ้านเธอเป็นไงไม่รู้นะ แต่ที่เมืองไทยเขาไม่นิยมเขียนโต๊ะกัน เคสฉันถือว่ายกโทษให้ แต่เธออย่าไปทำแบบนี้กับที่อื่นล่ะ” (จบแบบสวยๆ)

ส่วนเคสล่าสุด คือคู่รักทำกับข้าว…จนควันขโมงโฉงฉาง ถึงขนาดสัญญานจับควันทำงานส่งเสียงกระหึ่มทั่วทั้งตึก!!! ไม่พอยังส่งเสียงดังจนเพื่อนบ้านต้องยื่นคำร้องฟ้องนิติฯ ว่ากวนประสาทเขามาก ฉันล่ะกลัว กลั๊ว กลัวว่าจะถูกเพื่อนบ้านรวมตัวกันขับไล่ออกจากตึก ถึงกับต้องส่งข้อความผ่าน wechat ไปบอกด่วนว่า “จากนี้ไปช่วยหยุดทำกับข้าว และห้ามส่งเสียงดังนะคะ ไม่งั้นเพื่อนบ้านจะฟ้องร้องฉันแล้ว!” นางก็ตอบว่า “I’m so sorry” แค่นั้น…เฮ้อ (มองบน 28 รอบ)

บล็อกนี้เขียนค้างไว้นานเป็นปี เพิ่งจะมีโอกาสโพสต์เดือนมิย. ปี2016 หวังว่าใครที่หลงมาอ่าน และกำลังมองหาที่พักเล็กๆ ในเชียงใหม่จะสนใจบ้างนะคะ ติดต่อได้ทางเฟสบุ๊กนี้ได้เสมอค่า FB: tiny.home.cm

 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s