ซอนซอกฮ่องกง 2 : Hak Po St. แหล่งกิน Mong Kok

ถ้าใครมาฮ่องกงแล้วกะมาเดิน Ladies Market หรือ Snekers Street ล่ะก็
เราขอแนะนำถนน Hak Po Street ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกพอประมาณ
นัยว่าเป็นแหล่งฮิปใหม่ที่ค่อยๆ มีร้านมาเปิดแล้วนะ
จะเหมาะสำหรับคนที่ 1.หิว 2.อยากเปลี่ยนจากหมี่เกี๊ยวบ้างไรบ้าง 3.ได้กินแบบโลคัล 4.เดินใกล้ด้วย
แถมมีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งแซนวิช ราเม็ง อาหารญี่ปุ่น ร้านขนมก็มี แถมมีตัวพ่อเรื่องกาแฟอยู่ร้านนึงด้วย

TAP
ร้านนี้เพิ่งเปิดไม่นาน เขามองตัวเองว่าเป็นผับ เน้นขายเบียร์ทั้งโลคัลฮ่องกง
และเบียร์เด็ดดวงจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่วนอาหารเน้นอยู่อย่างเดียวคือ “แซนวิช”
(เมนูเบียร์มีบานเบอะหน้า เมนูอาหารมีแค่ 2 หน้า)

อ่านแล้วอย่าเพิ่งดูหมิ่นว่าทำไมต้องถ่อมากินแซนวิชถึงนี่ เพราะร้านนี้เขาเด็ด
เป็นแซนวิชแบบฝรั่ง ขยันคิดค้นหาไส้แซนวิชเก๋กู้ด มีใช้วัตถุดิบโลคัลเช่นหมูกรอบ หมูแดงมาทำเป็นไส้
และหยิบนั่น มาผสมนี่ ให้กลายเป็นไส้ที่อร๊อย อร่อย จนอยากจะลองมันหมดทุกเมนู
ขนมปังก็ทำเอง ทั้งซาวโดว์ เซียบัตตา ขนมปังเบียร์ ฯลฯ ที่สำคัญคือมีขนาด Half/Full ให้สั่งตามกำลังท้องข่ะ!

เราไปกัน 2 คน เลยสั่ง 3 Half size มาแบ่งกันกัน ได้หลายวาไรตี้ด้วย
โดยรวมพบว่ารสชาติอาหารโอเคมากๆ โดยเฉพาะเมนู Toast Gai ยังไงลองเลื่อนไปดูข้างล่างกันนะ
มื้อนี้ราคา HK$270 และคิดว่าจะกลับไปลองเมนูที่ไม่เคยลองอีกให้ครบเลย (ติดใจฝุด)

Knockbox Coffee Company
หลังจากตัวพองเพราะบริโภคชีสในแซนวิช 3 ประเภทจากร้าน TAP 
พวกเราเดินออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายไปแค่ไม่กี่ห้องแถว ก็เจอร้าน Knockbox Coffee Company
พี่เขาเป็นร้านดังประจำย่านเลย จริงจังเรื่องกาแฟมาก และไม่ได้เน้นขายแค่กาแฟกับขนม
มี Coffee Tasting, สอนทำลาเต้อาร์ต สอนดริปกาแฟ และฯลฯ แบบที่ร้านกาแฟดีๆ ควรมี

ถ้าสั่งกาแฟดำมีให้เลือกวิธีทำ 3 แบบ
คือดริป / ไซฟอน / aeropress มีเมล็ดกาแฟหลากหลายขายในราคา 100 g./HK$80
ความเจ๋งของร้านนี้คือประกาศชัดเจนว่าไม่มี decafe / นมถั่วเหลือง / นมพร่องมันเนย ใดๆ ให้เลือกทั้่งนั้น
แถมกาแฟแต่ละแบบมีแค่ไซส์เดียว เพราะ “มันคือวิธีกินกาแฟที่อร่อยที่สุด” (อย่าจุกจิกน่า – -งิป้ะ ^^”)
ด้วยความที่เรานั่งเคาน์เตอร์ เลยดูตอนเค้าทำกาแฟแต่ละแก้ว ชิมมันทุกแก้ว ฟันธงว่า…พิถีพิถันมาก
กาแฟที่เอามาทำลาเต้ (เราสั่ง) มีการจับเวลาเพื่อเอาเฉพาะส่วนหัวของกาแฟ
ส่วนกาแฟแบบดริปที่คุณบูสั่ง ก็มีขั้นตอน ฯลฯ อยู่พักใหญ่กว่าจะได้กิน
นั่งดูเค้าทำกาแฟแบบหลอดไซฟอนด้วย … นานมากกกก แต่ชอบนะ มันเป็นเหมือนงานศิลปะที่…ต้องใช้ความใส่ใจดี
และเมื่อกาแฟถูกนำมาวางตรงหน้า เราก็จะน้อมรับความพิถีพิถันนั้นมาดื่มด้วยความยินดี

ลาเต้อร่อย เสิร์ฟอุณหภูมิกำลังดี นัตตี้ๆ หน่อย

ใกล้ๆ กันขนาดโยนก้อนหินถึง ยังมี ร้านราเม็ง ชื่อ Kureha Ramen 
ที่มีคนกินขวักไขว่ และมีคนเขียนถึงเยอะเชียว เขาเน้นราเม็งซุปเข้มข้น
มีล็อบสเตอร์ราเม็งด้วยนะ ขณะที่อีกอีกฟาก มีร้านขนมหวานฮ่องกงมาเปิดรอคอยอยู่

 

Chicken Andong
ร้านไก่แซบเกาหลี ที่บอกได้เลยว่าห้ามดูถูกเขานะ!!! คือเราเป็นคนไทยช่า กินเผ็ดเก่ง! อาหารเกาหลีที่ว่าใส่พริกเผ็ดๆ น่ะ มันจะเผ็ดสักแค่ไหนกั๊น สู้ลาบ น้ำตก ส้มตำบ้านฉันบ่ได้ดอก…ว่าแล้วพอสั่งไก่ซิกเนเจอร์เขา พนักงานก็ถาม
“เอาเผ็ดระดับไหนดี 1-5”
“5 เล๊ย เผ็ดสุด!” เราบอกทันที บูถึงกับหันรีหันขวาง เราเลยรีบตอกย้ำความมั่นใจ “เราคนไทยนะ สบ๊าย”
ช่วงนั้นอยากของแซบๆ ไง

หารู้ไม่…ไก่เผ็ด…คำว่า “เผ็ดหูดับตับไหม้” ยังดูเป็นอะไรที่น้อยไป!!!
คือเกือบกินไม่ได้อะ บอกเลย เหมือนน้ำพริกทั้งชามอ่ะ ดังนั้นถ้าใครสั่งไก่นะ อย่าสั่งระดับ 5 เด็ดๆ ไม่งั้นท่านอาจเสียกะตังฟรี
ร้านอยู่ตรง 3 แยกหน้า TAP นั่นแล ลองมองๆ ดูเดี๋ยวก็เห็น ติดกับร้านขนม

กินอาหารเสร็จแล้ว จะเดินช็อปปิ้งต่อ หรือเดินเล่นแถวๆ นั้นก็สนุกนะ : )